Message from the wilderness. Day 11/30, 2025 

       สวัสดีครับ พี่น้องชาวไทยทุกคนวันนี้เข้าวันที่ 11 แล้วในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งมีเรื่องน่าตื่นเต้นในทุกๆวันที่นี้ครับ เมื่อวานช่วงบ่ายมีคลาสเกี่ยวกับการ “กำราบเนื้อหนังตัวเอง” หรือชื่อที่คุ้นหูกันก็คือ Neuro Associative Conditioning ( NEC ) เป็นการที่เราใส่จุดยึดใหม่ที่ดีแทนสิ่งไม่ดีลงไปในร่างกายเรา ไว้ผมกลับจะแบ่งปันเรื่องนี้โดยละเอียดนะครับ และคลาสนี้ มีเพลง ที่เราใช้ในการ โปรแกรมตัวเอง คือ He is Exalted และเราจะร้องมันทุกวัน วันละหลายๆรอบ เอลเดอร์ ดอน เลยอยากชวนพวกเรา ร่วมกันอยู่ในบรรยากาศเดียวกันโดยการนมัสการเพลงนี้ทุกวันน่ะครับ

       เอาหละเนื่องจากเมื่อวาน มีฝูงนกอินทรีบินวนรอบที่พักของเรา ซึ่งผมแนบคลิปวิดีโอไว้ด้านล่าง เอลเดอร์ ดอน เลยแบ่งปันเรื่องราวดีๆเกี่ยวกับนกอินทรีให้เราทุกคนในโรงเรียนได้ทราบและแน่นอนผมจะพลาดที่จะแบ่งปันพี่น้องชาวไทยได้อย่างไรครับ

“และน้ำท่วมกวาดเอาพวกเขาไปทุกคนโดยไม่ทันรู้ตัวอย่างไร เมื่อบุตรมนุษย์เสด็จมาก็จะเป็นอย่างนั้น เวลานั้นชายสองคนอยู่ที่ทุ่งนา จะถูกรับไปคนหนึ่ง และถูกละทิ้งไว้คนหนึ่ง หญิงสองคนโม่แป้งอยู่ด้วยกัน จะถูกรับไปคนหนึ่ง ถูกละทิ้งไว้คนหนึ่ง เพราะฉะนั้นพวกท่านจงเฝ้าระวังอยู่ เพราะท่านไม่รู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าของพวกท่านจะเสด็จมาเวลาไหน จงจำไว้ว่า ถ้าเจ้าของบ้านรู้ว่าขโมยจะมาเวลาไหน เขาจะเฝ้าระวังอยู่ ไม่ให้บ้านถูกงัดเข้าไปได้ เพราะเหตุนี้พวกท่านจงเตรียมพร้อม เพราะในเวลาที่ท่านไม่คิดไม่ฝันนั้น บุตรมนุษย์จะเสด็จมา”
มัทธิว 24:39-44 THSV11

       เริ่มต้นด้วยพระคำข้อนี้ครับ นี้คือ ข้อที่คริสเตียนเข้าใจผิดมากที่สุดข้อนึงครับ ส่วนใหญ่พวกเขาเข้าใจว่านี่คือการ รับไป หรือ rapture ซึ่งการ รับไปนั้น ไม่มีเพราะ อาณาจักรสวรรค์ อยู่บนแผ่นดินโลก เราเพียงเปลี่ยนกายในชั่วพริบตาหนึ่งเท่านั้นและจะไปรวมกับยาห์ชัวที่ภูเขามะกอกเทศ แล้วถ้าแบบนี้การรับไปคืออะไรกันครับ มาดูพระคำต่อมาครับ

“พระองค์ตรัสตอบว่า “ผู้หว่านเมล็ดพืชดีนั้นได้แก่บุตรมนุษย์ และนานั้นได้แก่โลก ส่วนเมล็ดพืชดีได้แก่พลเมืองแห่งแผ่นดินของพระเจ้า แต่ข้าวละมานได้แก่พลเมืองของมารร้าย ศัตรูผู้หว่านเมล็ดพืชเลวได้แก่มารนั้น ฤดูเกี่ยวได้แก่เวลาสิ้นยุค และผู้เกี่ยวทั้งหลายนั้นได้แก่ทูตสวรรค์ เพราะฉะนั้นเขาเก็บข้าวละมานเผาไฟเสียอย่างไร เมื่อเวลาสิ้นยุคก็จะเป็นอย่างนั้น บุตรมนุษย์จะใช้บรรดาทูตสวรรค์ของท่านออกไปเก็บกวาดทุกสิ่งที่ทำให้หลงผิด และพวกผู้ที่ทำชั่วไปจากแผ่นดินของท่าน และจะทิ้งลงในเตาไฟที่ลุกโพลง ที่นั่นจะมีการร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เวลานั้นบรรดาคนชอบธรรมจะส่องแสงอยู่ในแผ่นดินพระบิดาของพวกเขาดุจดวงอาทิตย์ ใครมีหูจงฟังเถิด”
มัทธิว 13:37-43 THSV11

       เอลเดอร์ ดอน บอกว่า การรับไป ที่ว่าคือ การแยกเอาคนที่ไม่ได้เข้าอาณาจักรสวรรค์ออกไปที่บึงไฟมากกว่า ครับ

       และย้อนกลับมาที่มัทธิว 24 จะมีท่อนที่พูดถึง นกอินทรี แต่เวอร์ชั่น ภาษาไทยใช้คำว่า นกแร้ง อ่ะนะครับ

“ซากศพอยู่ที่ไหนฝูงนกแร้งก็จะรุมล้อมกันอยู่ที่นั่น”
มัทธิว 24:28 THSV11
Mat 24:28  For wherever the dead body may be, there the eagles will be gathered

       เหตุการณ์นี้คือ ช่วงที่ ศัตรูกำลังต่อสู้กับยาห์ชัว และกำลังพ่ายแพ้และอินทรีกำลังบินวนเพื่อรอกินซากศพ ครับ

       เหตุการณ์นี้จะเกิดที่เมืองโบสร่า ใกล้ๆ กับที่ที่ผมอยู่ตอนนี้นั้นเอง

“ดูเถิด ผู้หนึ่งจะเหาะขึ้นและโฉบลงเหมือนนกอินทรี และกางปีกของมันออกสู้โบสราห์ และจิตใจของนักรบแห่งเอโดมในวันนั้นจะเป็นเหมือนจิตใจของหญิงปวดท้องคลอดบุตร””
เยเรมีย์ 49:22 THSV11

       ใช่แล้ว นกอินทรี คือ การปกป้อง คือ พละกำลัง ครับ

“โมเสสขึ้นไปเข้าเฝ้าพระเจ้า พระยาห์เวห์ตรัสกับท่านจากภูเขานั้นว่า “จงบอกวงศ์วานยาโคบและชนชาติอิสราเอลดังนี้ว่า พวกเจ้าได้เห็นสิ่งที่เราทำกับคนอียิปต์แล้ว และที่เราชูพวกเจ้าขึ้นดุจดังด้วยปีกนกอินทรี เพื่อนำพวกเจ้ามาถึงเรา”
อพยพ 19:3-4 THSV11

“เพราะว่าส่วนของพระยาห์เวห์คือประชากรของพระองค์ ยาโคบเป็นส่วนมรดกของพระองค์ “พระองค์ทรงพบเขาในแผ่นดินทุรกันดาร ในที่ร้างเปล่าวังเวง พระองค์ทรงโอบล้อมเขา และทรงดูแลเขา ทรงรักษาเขาไว้ดังแก้วพระเนตรของพระองค์ เหมือนนกอินทรีที่กวนรังของมัน กระพือปีกเหนือลูกนก กางปีกออกรองรับลูกไว้ให้เกาะอยู่บนปีก”
เฉลยธรรมบัญญัติ 32:9-11 THSV11

       และข้อพระคำที่ดังมากๆข้อหนึ่งของการปกป้องก็พูดถึง ที่กำบังสูงชัน (เสลาห์) และปีกแห่งการปกป้อง

“ผู้ที่อาศัยอยู่ในที่กำบังขององค์ผู้สูงสุด จะอยู่ในร่มเงาของผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ ข้าพเจ้าจะทูลพระยาห์เวห์ว่า “ที่ลี้ภัยของข้าพระองค์และป้อมปราการของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ผู้ที่ข้าพระองค์ไว้วางใจ” เพราะพระองค์จะทรงช่วยกู้ท่านให้พ้นจากกับของพรานนก และพ้นจากโรคภัยร้ายแรงนั้น พระองค์จะทรงปกท่านไว้ด้วยปีกของพระองค์ และท่านจะลี้ภัยอยู่ใต้ปีกของพระองค์ ความซื่อสัตย์ของพระองค์เป็นโล่และเป็นดั้ง”
สดุดี 91:1-4 THSV11

“พระองค์ประทานกำลังแก่คนอ่อนเปลี้ย และผู้ไม่มีพลังนั้นพระองค์ทรงให้มีเรี่ยวแรงมาก แม้คนหนุ่มๆ จะอ่อนเปลี้ยและเหน็ดเหนื่อย และชายฉกรรจ์จะล้มลงทีเดียว แต่เขาทั้งหลายผู้รอคอยพระยาห์เวห์จะได้รับกำลังใหม่ เขาจะบินขึ้นด้วยปีกเหมือนนกอินทรี เขาจะวิ่งและไม่อ่อนเปลี้ย เขาจะเดินและไม่เหน็ดเหนื่อย”
อิสยาห์ 40:29-31 THSV11

       และสุดท้ายคือ ปีกนกอินทรีของยุคสุดท้าย

“เมื่อพญานาคตัวนั้นเห็นว่ามันถูกโยนลงไปที่แผ่นดินโลกแล้ว มันก็ไล่ตามหญิงที่คลอดบุตรชายนั้น แต่พระเจ้าประทานปีกของนกอินทรีใหญ่สองปีกแก่หญิงคนนั้น เพื่อว่านางจะบินเข้าไปในถิ่นทุรกันดารให้พ้นหน้างูตัวนั้น ไปยังสถานที่ของนางที่ซึ่งนางจะได้รับการเลี้ยงดูตลอดหนึ่งวาระ สองวาระ และครึ่งวาระ งูตัวนั้นก็พ่นน้ำออกจากปากเหมือนอย่างแม่น้ำไหลตามหญิงคนนั้น เพื่อจะทำให้นางถูกน้ำซัดไป แต่แผ่นดินช่วยหญิงคนนั้นไว้ โดยแยกออกเป็นช่องแล้วกลืนน้ำที่พญานาคพ่นออกจากปาก”
วิวรณ์ 12:13-16 THSV11

       จะเห็นว่า นกอินทรีเป็นตัวแทนของการปกป้อง เสริมกำลังใหม่ให้เรานั้นเอง และขอบคุณพระยาห์เวห์ที่พระองค์ให้หมายสำคัญกับพวกเราที่อยู่เสลาห์นี้ ถึงการปกป้องและแน่นอนครับ เราคือ ชุมชนของพระยาห์เวห์ด้วยกันพระพรนี้ก็ไปถึงพี่น้องที่รักษาพันธสัญญาด้วยเช่นกัน

ชาโลมครับ

เอลเดอร์ โป้ง