Message from the wilderness. Day 13/30, 2025 

       สวัสดีครับพี่น้อง Congregations of YHWH ชาวไทยทุกท่าน วันนี้เข้าวันที่ 13 แล้วครับที่เมืองไทยเป็นไงบ้างครับเขียนมาเล่าให้ผมฟังน่ะครับ ไม่ได้เจอกันมา 2 สะบาโตแล้วเป็นอย่างไรกันบ้าง พรุ่งนี้แล้วที่ เอลเดอร์ ดอน จะพาเราไป ออกนอกสถานที่ และที่ที่เราจะไป คือ ภูเขาเสลาห์ ถ้ำโลท และ แม่น้ำจอร์แดน ที่ซึ่งยอห์น บัพติสมาได้ บัพติสมาให้กับ ยาห์ชัว พระเมสิยาห์ของเราครับ ทุกครั้งที่มาประเทศจอร์แดนเอลเดอร์ดอนก็จะไม่พลาดที่จะมา แม่น้ำจอร์แดนอย่างมีนัยยะ

       วันนี้ผมมีเรื่องราวดีๆที่เกี่ยวข้องการแม่น้ำจอร์แดนมาฝากครับ เมื่อวานในชั้นเรียนทำให้เราทราบว่า ยอห์น บัพติสมา มีแนวโน้มสูง ที่จะเป็นกลุ่มเดียวกันกับชุมชน “คุมราน” เนื่องจากความเชื่อและการแนะนำตัวเองด้วยข้อพระคำที่เป็นข้อเดียวกัน

“ตามที่มีเขียนไว้ในหนังสือที่เป็นถ้อยคำของอิสยาห์ผู้เผยพระวจนะว่า “มีเสียงของผู้หนึ่งป่าวร้องในถิ่นทุรกันดารว่า จงเตรียมมรรคา แห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า จงทำหนทางของพระองค์ให้ตรงไป หุบเขาทุกแห่งจะถมให้เต็ม ภูเขาและเนินทุกแห่งจะให้ต่ำลง ทางคดจะกลายเป็นทางตรง และทางที่สูงๆ ต่ำๆ จะเป็นทางราบ และมนุษย์ทั้งหลายจะได้เห็นความรอดของพระเจ้า”
ลูกา 3:4-6 THSV11

       ใช่แล้วครับชุมชนคุมรานที่เป็นต้นแบบของ Comunity Living ในปัจจุบัน หรือ Kibbutz ( ภาษาฮีบรู ) หรือ ในภาษาไทยผมขอใช้คำว่า “หมู่บ้าน” แล้วกันน่ะครับ เดิมทีก่อนจะใช้คำว่า kibbutz คุมราน เรียกมันว่า “ yahad” ซึ่งเป็นที่มาของชื่อโรงเรียน “Hayahad “ แห่งนี้ที่แปลว่า ”การอยู่รวมกันเป็นหนึ่งเดียว“ 

       ความน่าสนใจของชุมชน คุมราน คือ พวกเขาคือ ปุโรหิต เลวี ที่ทนต่อความ ล้มเหลวของพระวิหารในสมัยนั้น ( ก่อนคริสตศักราช 196 ปี ) ช่วงการสถานปนาสภา แซนฮีดริน ก็ว่าง่ายๆว่า เริ่นต้น 196 ปีก่อน ยาห์ชัวจะมาประสูตินั่นเอง ในช่วงนี้เอง บันทึกเล่าให้เราฟัง พระวิหารมีการกระทำที่เลวร้ายมากๆ ถึงขั้นมีการซื้อขายตำแหน่งปุโรหิต กัน มีการโกง ทุจริต และการกระทำที่น่ารังเกียจภายในหมู่ปุโรหิตเลวี มากมาย จึงเป็นเหตุให้ชาว คุมราน ตัดสินใจ แยกตัวออกมาตั้งชุมชนอยู่ในถิ่นทุรกันดาร แถบทะเล เดดซี เพื่อรักษาความบริสุทธิ์ไว้และที่สำคัญ ชาวคุมรานนี้เองที่เป็นผู้คัดลอกพระคัมภีร์ ต่างๆในพันธสัญญึเดิมเก็บไว้ในถ้ำ และเมื่อการเวลาผ่านมา 2000 ปีก็มีชาวเบดูอินไปพบเข้าโดยบังเอิญ จึงเป็นที่มาของพระคัมภีร์ ฉบับ Deadsea Scroll นั้นเอง พระคัมภีร์ฉบับนี้แหละครับที่กู้คืนศักดิ์ศรีให้กับผู้เชื่อทั่วโลก เพราะ ก่อนหน้านี้โลกไม่เคยมีพระคัมภีร์ที่มีอายุเก่ากว่า การเสด็จมาของยาห์ชัวเลย จึงเป็นข้อกล่าวที่ว่า ” คริสเตียนแต่งพระคัมภีร์ขึ้นมาเอง“ เพราะพระคัมภีร์เดิมก่อนหน้านี้ถูกเผาทำลายไปในช่วงพระวิหารถูกทำลายใน คศ 70 หมดแล้ว ที่หลงเหลืออยู่ก็มีอายุ ไม่มากพอจะเป็นหลักฐานว่า คำทำนายถึงพระเมสิยาห์ ถูกเขียนขึ้นก่อนการเสด็จมาประสูติจริงๆ  ว้าว น่าอัศจรรย์มากๆจริงมั้ยครับ และที่สำคัญ มันถูกค้นพบ 1 ปีก่อนการประกาศตั้งประเทศของอิสราเอล ในปี 1947 ไม่มีอะไร เปะปัง กว่านี้แล้ว

       เรื่องราวของคุมราน ทำให้เรากลับมามองตนเองครับ ว่าในยุคปัจจุบัน เราได้เห็นความน่าเศร้าใจในระบบศาสนาแบบเดียวกับยุคของคุมราน หรือไม่? เราเห็นสภาพการโกง การซื้อขาย ตำแหน่ง การซื้อเสียงเลือกตั้ง ในการหาเสียงเพื่อแย่งชิงตำแหน่งทางศาสนาหรือไม่ สำหรับผมแล้วสภาพตอนนี้ไม่ต่างกันเลย แทนที่จะให้คุณค่ากับชีวิตที่บริสุทธิ์แต่กลับให้คุณค่ากับ เงิน ชื่อเสียง และจำนวนสมาชิก และใช้ประทับตราตัวเองว่านี่ไงพระเจ้าอวยพรฉัน แต่ผู้คนในนั้นกลับไม่มีคุณภาพในทางของพระยาห์เวห์เลย สมกับเป็นยุคของเลาดิเซียโดยสมบูรณ์จริงๆครับ

“เรารู้จักความประพฤติของเจ้า คือว่าเจ้าไม่เย็นและไม่ร้อน เราอยากให้เจ้าเย็นหรือร้อน เพราะว่าเจ้าเป็นแต่อุ่นๆ ไม่ร้อนและไม่เย็น เราจะคายเจ้าออกจากปากของเรา เพราะเจ้าพูดว่า ‘ข้าเป็นเศรษฐีและข้าร่ำรวยแล้ว ข้าไม่ต้องการสิ่งใดเลย’ เจ้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นคนน่าสมเพช น่าสังเวช เจ้ายากจน ตาบอด และเปลือยกาย เราแนะนำเจ้าให้ซื้อทองคำที่หลอมด้วยไฟจากเรา เพื่อเจ้าจะได้มั่งมี และให้ซื้อเสื้อผ้าสีขาว เพื่อจะได้สวมให้พ้นจากความอับอายที่ต้องเปลือยกาย และซื้อยาหยอดตาของเจ้า เพื่อเจ้าจะได้เห็น”
วิวรณ์ 3:15-18 THSV11

       ฉะนั้นจึงเป็นเหตุให้พวกเราแยกตัวออกมาเพื่อเข้าสู่ถิ่นทุรกันดาร เพื่อจะมีชีวิตที่บริสุทธิ์มากขึ้นเรื่อยๆ เราเรียนรู้การมีวิถีชีวิตที่บริสุทธิ์ เราเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันแบบ คุมราน ที่เป็นต้นแบบให้ผู้เชื่อยุคแรก ได้เริ่มชุมชนโดยการ นำสิ่งของมาแบ่งปันกัน ขายทุกอย่างที่มี แล้วนำมารวมกันใช้ด้วยกัน หลักการง่ายๆ คือ ”เรานำของทุกอย่างมาเป็นของส่วนกลาง แล้วเราสามารถเอาสิ่งที่เราจำเป็นต้องใช้ ไปใช้ได้ทุกอย่าง “ แค่เฉพาะสิ่งที่เราจำเป็นเท่านั้น นี่คือแนวทางเบื้องต้น ง่ายๆ ของการเริ่มต้นการใช้ชีวิตแบบ Hayahad ครับ

       และนี่คือแนวทางที่จะช่วยให้เราแต่ล่ะคนอยู่รอดได้ในยุคที่ระบบของซาตานแผ่อำนาจปกครองโลกอย่างเต็มที่ เครื่องหมายของมัน จะบังคับให้เราซื้อขายกับคนทั่วไปไม่ได้ และแน่นอนหากคุณไม่มี คีบุช หรือ หมู่บ้าน เป็นของตัวเองที่อยู่กันแบบ Hayahad ผมแน่ใจได้ว่า คุณจะอยู่ยากมากๆ ถึงอยู่ไม่ได้เลย ลองนึกภาพดูนะครับ ว่าเงินที่คุณมีไม่สามารถใช่ได้สักบาทเดียว คุณต้องพึ่งพาตัวเอง 100% คุณจะทำทุกอย่าง คนเดียว หรือ เพียงแค่คนในครอบครัว 2-3 คนได้อย่างไร นี่คือการเตรียมตัวที่แท้จริงครับ

       และแน่นอนไม่ใช่เรื่องง่ายที่คน 2-3 คนขึ้นไปจะมาอยู่รวมกันได้อย่างราบรื่น ดังนั้น ชุมชนหรือคีบุช จึงต้องมีระเบียบข้อตกลง วิธีทดลองอยู่ กฏต่างๆ ขึ้นมาเป็นของตัวเอง ที่เหมาะกับสภาพของแต่ล่ะ คีบุช นั้น และทุกคนต้องยินยอมจะอยู่ใต้การดูแลของผู้นำนั้นๆ และเคารพในกฏระเบียบ และแน่นอนการแบ่งปันสิ่งของเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ชีวิตที่ไม่สามารถใส่หน้ากากเข้าหากันจะเริ่มเกิดขึ้นเป็นการเริ่มต้นที่จะเติบโต ฝ่ายวิญญาณอย่างแท้จริง

       และที่สำคัญ สำคัญมากๆ คือ การมาอยู่ร่วมกันเป็น หมู่บ้าน นี้ต้องเกิดจากความสมัครใจเท่านั้นครับ

       ดังนั้นผมเองในฐานะเอลเดอร์ คนนึงและในฐานะผู้นำของ หมู่บ้านแรกของชุมชนผู้เชื่อในประเทศไทย ผมเองขอเป็นพยานว่า มีดีกว่ามากๆจริงๆครับ และแน่นอนจำเป็นมากๆที่แต่ล่ะคนต้องสมัครใจมาอยู่ร่วมกันแต่สิ่งที่เสียไป นั้นคุ้มค่าจริงๆ ก็หนุนใจให้พี่น้องเริ่มคิดถึงการมี คีบุช เป็นของตัวเองด้วยน่ะครับทว่าเราจะเริ่มมันขึ้นมาใหม่กับใคร หรือ เราจะเข้าไปร่วมกับใคร มั้ย ผมจะคอยให้คำแนะนำตลอดเวลาครับ

“เปโตรจึงกล่าวอีกหลายเรื่องเป็นพยานและเตือนสติพวกเขาว่า “จงเอาตัวรอดจากชาติพันธุ์ที่คดโกงนี้เถิด” คนทั้งหลายที่รับถ้อยคำของเปโตรก็รับบัพติศมา ในวันนั้นมีคนเข้าเป็นสาวกประมาณสามพันคน เขาทั้งหลายอุทิศตัวเพื่อฟังคำสอนของบรรดาอัครทูตและร่วมสามัคคีธรรม รวมทั้งหักขนมปังและอธิษฐาน เขาทั้งหลายมีความเกรงกลัวด้วยกันทุกคน และพวกอัครทูตทำการอัศจรรย์ และหมายสำคัญมากมาย คนทั้งหมดที่เชื่อถือก็อยู่รวมกัน และนำทุกสิ่งมารวมเป็นของกลาง และพวกเขาขายที่ดินและทรัพย์สิ่งของมาแบ่งให้แก่กันตามความจำเป็น ทุกๆ วัน พวกเขาอุทิศตัวอยู่ด้วยกันในพระวิหารและหักขนมปังตามบ้านของพวกเขา รับประทานอาหารร่วมกันด้วยความชื่นชมยินดีและจริงใจ ทั้งสรรเสริญพระเจ้าและได้รับความชื่นชอบจากทุกคน องค์พระผู้เป็นเจ้าก็โปรดให้คนทั้งหลายที่กำลังจะรอด เพิ่มจำนวนเข้ามามากยิ่งขึ้นทุกๆ วัน”
กิจการ 2:40-47 THSV11

       ข้อพระคำนี้แสดงให้เราเห็นถึงการอยู่ร่วมกันของผู้เชื่อยุคแรก นั่นเองครับ ขอพระยาห์เวห์สำแดงหนทางให้ทุกท่านที่จะเตรียมตัวเพื่อเอาตัวรอดจากชาติพันธุ์ที่คดโกงนี้ด้วยกันทุกคนน่ะครับ

ชาโลม

เอลเดอร์ โป้ง