Menu
(TH) สวัสดีครับทุกคนนี้เป็นบทความของวันที่ 23 ในถิ่นทุรกันดาร ที่เสลาห์ และเข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายแล้ว เวลาช่างผ่านไปเร็วจริงๆ นะครับ ผมรู้สึกอยากให้มีเวลาต่อไปอีกสักระยะเพราะทุกวันที่นี่ก็เต็มไปด้วยเรื่องราวดีๆ วันแล้ววันเล่า แต่อีกใจหนึ่งก็อยากกลับไปร่วมรับใช้กับพี่น้องในด้านต่างๆเพื่อให้เกิดผลให้มากที่สุดในแผ่นดินไทย
เพราะความรู้และแรงบันดาลใจมากมายที่ได้รับจากที่นี่มันกำลังเต็มล้นจนอดใจรอไม่ไหวจริงๆ ครับ ฝากอธิษฐานเพื่อที่ไฟในการรับใช้ครั้งนี้จะลุกโชนจนไม่มีวันดับในตัวพวกเราทุกคนนะครับ ไม่ใช่แค่ผมเท่านั้น
เอาหละครับ มาถึงเรื่องราวดีๆ จากเสลาห์กันบ้างวันนี้อยากพูดเรื่องที่น่าสนใจมากๆเรื่องหนึ่งครับ เคยมั้ยครับที่เรามีบางเรื่องที่เราเฝ้าขอยาห์เวห์เท่าไรแต่ก็ไม่เคยได้รับคำตอบ บางเรื่องที่ว่า อาจหมายถึง ความจำกัดบางอย่างในชีวิต การข่มเห่งบางอย่างในชีวิต ความทุกข์บางอย่างในชีวิต ที่อธิษฐานขอยาห์เวห์ที่จะช่วยเอาออกไปจากชีวิตแต่ก็ดูเหมือนทุกอย่างยังเหมือนเดิม จนบางครั้งเราก็แอบ ท้อใจ บ้างก็น้อยใจ เหมือนเราไม่ได้การตอบสนองจากพระยาห์เวห์ เลย ถ้าใครพอนึกออกว่า ในกรณีของตัวเองคืออะไร เรื่องไหน งั้นลองอ่านพระคำข้อนี้ดูก่อนครับ
“ถ้าใครมาหาเราและไม่ชังบิดามารดา บุตรภรรยา และพี่น้องชายหญิง แม้แต่ชีวิตของตนเอง คนนั้นจะเป็นสาวกของเราไม่ได้ และใครก็ตามที่ไม่ได้แบกกางเขนของตนตามเรามา คนนั้นจะเป็นสาวกของเราไม่ได้ ในพวกท่านมีใครบ้างเมื่อปรารถนาจะสร้างตึก จะไม่นั่งลงคิดราคาดูเสียก่อนว่า จะมีพอที่จะสร้างให้สำเร็จได้หรือไม่? เกรงว่าเมื่อวางรากฐานแล้ว และทำให้สำเร็จไม่ได้ ทุกคนที่เห็นก็จะเยาะเย้ยเขา ว่า ‘คนนี้เริ่มต้นก่อ แต่ทำให้สำเร็จไม่ได้’ หรือมีกษัตริย์องค์ไหน เมื่อจะยกกองทัพไปทำสงครามกับกษัตริย์อีกองค์หนึ่งนั้น จะไม่นั่งลงคิดดูเสียก่อนหรือว่า ที่มีพลทหารหนึ่งหมื่นจะสู้กับกองทัพที่ยกมารบสองหมื่นได้หรือไม่? ถ้าสู้ไม่ได้ก็จะใช้พวกทูตไปเจรจาผูกไมตรีกันในระหว่างที่อีกฝ่ายยังอยู่ไกล เช่นนั้นแหละ ทุกคนในพวกท่านที่ไม่ได้สละสิ่งสารพัดที่มีอยู่จะเป็นสาวกของเราไม่ได้”
ลูกา 14:26-33 THSV11
ในข้อความนี้ผมอยากให้เน้นไปที่ ข้อที่ 27 ครับ
“และใครก็ตามที่ไม่ได้แบกกางเขนของตนตามเรามา คนนั้นจะเป็นสาวกของเราไม่ได้”
ลูกา 14:27 THSV11
หนึ่งในในคุณสมบัติของการเป็นสาวก ของ Yahshua นอกจากต้องสละสิ่งสารพัดแล้ว ยังต้อง “แบกกางเขน” ด้วย
“กางเขน” ที่ว่า คือ การทนทุกข์ บางอย่างที่เฉพาะเจาะจงถึงเรา อย่างที่กล่าวไปข้างต้นครับ เรื่องบางเรื่องที่เรา อธิษฐานขอเท่าไร ยาห์เวห์ ก็ยังทรงอนุญาตให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นและยังอยู่กับเรา แท้จริง อาจไม่ใช่เพราะพระองค์ไม่ตอบคำอธิษฐานเรา ครับ แต่เพราะสิ่งนั้นอาจจะเป็น “กางเขนของเรา” หรือ การทนทุกข์ของเราในฐานะสาวกของ Yahshua มากกว่าครับ
ใช่แล้วครับ ในการติดตาม Yahshua พระเมสิยาห์ เราต้องแบกการทนทุกข์แล้วติดตามพระองค์ต่อไปด้วยครับ เราไม่ได้เดินไปตัวเบาๆ โล่ง อย่างที่บางคนอาจจะเคยเข้าใจมาก่อน ( อย่างน้อยก็ผมนี้แหละ 555) แต่วันนี้ในบทเรียนการเป็นสาวกของ Yahshua เอลเดอร์ ดอน ได้พูดถึง เรื่องนี้ในมุมที่น่าสนใจ มาก ๆ ผมเองถึงกับตาสว่างขึ้นมาทันที เพราะ หลายครั้งเหลือเกินที่เราตั้งเป้าหมายว่าชีวิตจะโล่ง พระยาห์เวห์ จะจัดการเรื่องราวต่างๆในชีวิตให้เราหมด แล้วพอไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวังเราก็ ตัดพ้อกันไปต่างๆนานา แต่จะมีสีกกี่คนที่ฉุกคิดว่า สิ่งนั้นอาจจะเป็น แอก หรือ กางเขน ของเราที่ต้องใช้แบกเพื่อติดตามพระองค์ไป ดังนั้น คงเป็นไปได้ยากที่เรื่องนั้นจะถูกนำออกไปในชีวิตเรา ตรงกันข้าม กางเขนนี้ มีไว้เพื่อ ถ่อมเราลง และเพื่อจะเรียนรู้การพึ่งพระยาห์เวห์อย่างถูกต้องมากกว่า
“เพราะว่าถ้าข้าพเจ้าอยากจะอวดข้าพเจ้าก็ไม่ใช่คนโง่เขลา เพราะว่าข้าพเจ้าจะพูดความจริง แต่ข้าพเจ้างดไว้ เพื่อจะไม่มีใครประเมินข้าพเจ้าสูงกว่าสิ่งที่เขาได้เห็นในตัวข้าพเจ้าหรือฟังจากข้าพเจ้า และเพื่อไม่ให้ข้าพเจ้ายกตัวเกินไป เนื่องจากการสำแดงอันยิ่งใหญ่ ก็ทรงให้มีหนามในเนื้อของข้าพเจ้า ซึ่งเป็นทูตของซาตานที่คอยโบยตีข้าพเจ้าเพื่อข้าพเจ้าจะไม่ยกตัวเกินไป เรื่องหนามนั้น ข้าพเจ้าวิงวอนต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าถึงสามครั้ง เพื่อขอให้มันหลุดไปจากข้าพเจ้า แต่พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าแล้วว่า “การมีพระคุณของเราก็เพียงพอกับเจ้า เพราะว่าความอ่อนแอมีที่ไหน ฤทธานุภาพของเราก็ปรากฏเต็มที่ที่นั่น” เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจะอวดบรรดาความอ่อนแอของข้าพเจ้ามากขึ้นด้วยความยินดีอย่างยิ่ง เพื่อว่าฤทธานุภาพของพระเมสิยาห์จะอยู่ในข้าพเจ้า เพราะเหตุนี้ เพื่อเห็นแก่พระเมสิยาห์ ข้าพเจ้าจึงพอใจในบรรดาความอ่อนแอ ในการถูกเยาะเย้ยต่างๆ ในความลำบาก ในการถูกข่มเหง ในเหตุวิบัติต่างๆ เพราะว่าข้าพเจ้าอ่อนแอเมื่อใด ข้าพเจ้าก็จะเข้มแข็งมากเมื่อนั้น”
2 โครินธ์ 12:6-10 THSV11
ข้อความท่อนนี้ในหนังสือ 2 โครินธ์จากเปาโล ช่วยทำให้เราเข้าใจ แอก หรือ กางเขน หรือ หนามในชีวิต ของเรามากขึ้น นะครับ ดังนั้น ผมอยากหนุนใจพี่น้องทุกคนที่ค้นพบ หนามในชีวิตตัวเอง กางเขน หรือ แอก หรือ การทนทุกข์ ส่วนตัวเพื่อพระเมสิยาห์ ก็ให้เราขอบพระคุณยาห์เวห์ และเรียนรู้จากสิ่งเหล่านั้นให้มากที่สุด และเพื่อพระคุณของพระยาห์เวห์ จะสำแดงผ่านเรื่องราวแห่งความทุกข์นั้นๆของแต่ละคนครับ และที่สำคัญครับ นี่คือ หนึ่งคุณสมบัติ ที่จะแสดงว่า คุณคือ “สาวกตัวจริง” ของ Yahshua พระเมสิยาห์ ครับ
ชาโลม
เอลเดอร์ โป้ง
(EN) Hello everyone, this is the article for the 23rd day in the wilderness at Selah, and it’s already the last week. Time flies so fast. I feel like I want to have a little more time because every day here is full of good stories, day after day. But another part of me wants to go back and serve my brothers and sisters in various areas to bear fruit as much as possible in Thailand. Because the knowledge and inspiration I’ve received from here is so overwhelming that I can’t wait. Please pray that the fire of serving this time will burn brightly and never be extinguished in all of us, not just me.
Now, let’s get to the good stories from Selah. Today, I’d like to talk about a very interesting topic. Have you ever had something that we asked Yahweh for but never received an answer? Some of these things may refer to some limitations in life, some oppressions in life, some suffering in life that we prayed to Yahweh to help us get rid of, but everything seems to stay the same. Sometimes we feel discouraged, or feel disappointed, as if we didn’t get a response from Yahweh. If anyone can remember, In your own case, what is it? Let’s read this verse first.
” 26 If anyone comes to Me and does not love less than Me, his father, and mother, and wife, and children, and brothers and sisters, and besides, even his own life, he cannot be My disciple. 27 And whoever does not bear his torture stake and come after Me, he cannot be My disciple. 28 For who of you desiring to build a tower does not first sit down and count the cost, whether he has the things to finish; 29 that having laid a foundation, and not having strength to finish, all those seeing begin to mock him, 30 saying, This man began to build, and did not have strength to finish. 31 Or what king going to attack another king in war does not first sit down and take counsel whether he is able with ten thousand to meet those coming upon him with twenty thousands? 32 But if not, he being still far off, sending a delegation, he asks the things for peace. 33 So then every one of you who does not forsake all his possessions is not able to be My disciple.”
Luke 14:26-33
In this scipture, I want to focus on verse 27.
“And whoever does not bear his torture stake and come after Me, he cannot be My disciple.”
Luke 14:27 THSV11
One of the qualifications of being a disciple of Yahshua, in addition to having to give up everything, is to also “bear his torture.”
The “bear his torture” is suffering something specific to us. As mentioned above, some things we pray for, Yahweh still allows them to happen and remain with us. In fact, it may not be because He does not answer our prayers, but because those things may be “our torture” or our suffering as a disciple of Yahshua.
That’s right, in following Yahshua, the Messiah, we must bear the suffering and continue to follow Him. We do not walk lightly and freely, as some people may have thought before (at least me). But today in the lesson on being a disciple of Yahshua, Elder Don talked about this in a very interesting way. It’s open my mind because too many times when we set a goal that our life would be free, Yahweh would take care of everything in our life for us. Then, when it does not go as we expected, we complain about various things. But how many of us would think that it could be our yoke or torture that we have to carry in order to follow Him? Therefore, it is unlikely that it will be removed from our lives. On the contrary, the torture is meant to humble us and teach us to rely on Yahweh correctly.
6 For if I desire to boast, I will not be foolish, for I speak the truth. But I spare, lest anyone reckons me to be beyond what he sees me or hears anything of me. 7 And by the super abundance of the revelations, that I not be made arrogant, a thorn in the flesh was given to me, a messenger of Satan, that he might buffet me, that I not be made haughty. 8 Beyond this I entreated our Master three times, that it depart from me.
9 And He said to me, My grace is sufficient for you, for My power is made perfect in weakness. Therefore, I will rather gladly boast in my weaknesses, that the power of Messiah may rest upon me. 10 Because of this, I am pleased in weaknesses, in insults, in dire needs, in persecutions, in distresses, for the sake of Messiah. For when I am physically weak, then I am spiritually strong.
2 Corinthians 12:6-10
This scripture from 2 Corinthians from Paul helps us to understand the yoke or torture or thorn in our lives more. So I would like to encourage all brothers and sisters who find a thorn in their own lives, the torture or yoke or personal suffering for the Messiah, to thank Yahweh and learn from those things as much as possible. And so that Yahweh’s grace will be revealed through the stories of each person’s suffering. And importantly, this is one of the qualities that will show that you are a “True Disciple” of Yahshua, the Messiah.
Shalom
Elder Pong
เราทราบกันดีว่า ยาห์ชัวไม่ได้สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน กากบาท ใช่มั้ยครับ แต่พระองค์ สิ้นพระชนม์ บนไม้ทรมาน บนต้นไม้นั้นเอง
Congregation of YHWH, Thailand ชุมชนของพระยาห์เวห์ แห่งประเทศไทย
