The Voice calling out from the Ark of Noah Ep 09, 2025

Ep ที่ 9   ” ปิดประตูทำไม ? “

(TH) สำหรับบทความนี้ผมจะชวนมาดูว่า อะไรเป็นสามารถที่ประยาห์เวห์ ปิดประตู กันน่ะครับ มาจะรวบรวมเอาพระคำที่พูดถึงการถูกปิดประตู หรือ เข้ามาแล้วแต่ถูกเชิญออกด้านนอก มาดูกันครับ

“ใครเป็นบ่าวที่ซื่อสัตย์และฉลาด ที่นายตั้งไว้เหนือบ่าวอื่นๆ เพื่อแจกอาหารตามเวลา เมื่อนายมาพบเขาทำอย่างนั้น บ่าวคนนั้นก็เป็นสุข เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า นายจะตั้งเขาไว้ให้ดูแลทรัพย์สิ่งของทั้งหมดของท่าน แต่ถ้าบ่าวชั่วนั้นคิดในใจของเขาว่า ‘นายของข้ามาช้า’ และเริ่มต้นโบยตีเพื่อนบ่าวและกินดื่มอยู่กับพวกขี้เมา นายของบ่าวคนนั้น จะมาในวันที่เขาไม่คิด ในชั่วโมงที่ไม่รู้ และจะลงโทษเขาอย่างหนัก และจะขับไล่ให้ไปอยู่ในที่ของพวกคนหน้าซื่อใจคด ซึ่งที่นั่นจะมีแต่การร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน”
มัทธิว 24:45-51 THSV11

       ข้อแรกนี้โดยสรุปคือ คนที่ คิดว่าพระเมสิยาห์ มาช้าเลยปล่อยชีวิตไปตามโลกจนเริ่มทำบาปหนักขึ้นไปเรื่อยๆ

“เมื่อเจ้าบ่าวมาช้า ก็พากันง่วงเหงาและหลับไป เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนก็มีเสียงร้องว่า ‘เจ้าบ่าวมาแล้ว จงออกมารับท่านเถิด’ หญิงพรหมจารีทั้งหมดนั้นก็ลุกขึ้นตกแต่งตะเกียงของตน บรรดาคนโง่ก็พูดกับพวกที่มีปัญญาว่า ‘ขอแบ่งน้ำมันของพวกท่านบ้าง เพราะตะเกียงของเราจวนจะดับอยู่แล้ว’ พวกที่มีปัญญาจึงตอบว่า ‘น่ากลัวน้ำมันจะไม่พอสำหรับเราและพวกท่าน จงไปหาคนขาย แล้วซื้อสำหรับตัวเองจะดีกว่า’ ระหว่างที่เขาทั้งหลายออกไปซื้อ เจ้าบ่าวก็มาถึง พวกที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วก็ไปกับท่านในงานสมรส แล้วประตูก็ปิด ภายหลังหญิงพรหมจารีอีกห้าคนก็มาร้องว่า ‘ท่านเจ้าคะ ขอเปิดให้เราด้วย’ แต่ท่านตอบว่า ‘เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า เราไม่รู้จักท่าน’ เพราะฉะนั้น จงเฝ้าระวังอยู่ เพราะพวกท่านไม่รู้กำหนดวันหรือเวลานั้น”
มัทธิว 25:5-13 THSV11

       ข้อที่ 2 นี้เกี่ยวกับหญิงพรหมจารี 5 คนโง่ 5 คนฉลาด  ในข้อนี้โดยสรุปคือ คนที่ไม่เตรียมตัวเช่นกันครับ แม้รักษาชีวิตที่บริสุทธิ์ดีแล้ว แต่ไม่สามารถไปต่อในวันที่มึดมิดได้ สุดท้ายก็ถูกปิดประตูใส่ อยู่ดี

“คนที่ได้รับตะลันต์เดียวก็มาชี้แจงด้วยว่า ‘นายเจ้าข้า ข้าพเจ้ารู้อยู่ว่าท่านเป็นคนใจตระหนี่ เกี่ยวผลในที่ที่ท่านไม่ได้หว่าน รวบรวมในที่ที่ท่านไม่ได้โปรย ข้าพเจ้ากลัวจึงเอาเงินตะลันต์ของท่านไปซ่อนไว้ใต้ดิน ดูซิ นี่เงินของท่าน’ นายจึงตอบว่า ‘ไอ้บ่าวชั่วและเกียจคร้าน เจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือว่าเราเกี่ยวในที่ที่เราไม่ได้หว่าน รวบรวมในที่ที่เราไม่ได้โปรย เพราะฉะนั้นเจ้าควรเอาเงินของเราไปฝากกับนายธนาคาร เมื่อเรามาก็จะได้รับเงินทั้งดอกเบี้ยด้วย เพราะฉะนั้น จงเอาเงินตะลันต์เดียวนั้นจากเขาไปให้คนที่มีสิบตะลันต์ เพราะว่าใครที่มีอยู่แล้วจะให้แก่คนนั้นจนมีอย่างเหลือเฟือ แต่คนที่ไม่มี แม้แต่สิ่งที่มีอยู่ก็จะเอาไปจากเขา เอาไอ้บ่าวชั่วช้าไปทิ้งเสียยังที่มืดภายนอก ซึ่งที่นั่นจะมีการร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน’”
มัทธิว 25:24-30 THSV11

       ข้อที่ 3 นี้ หมายถึง คนที่ไม่เกิดผล และเสียเวลามองตัวเองเป็นเหยื่ออยู่ร่ำไป หรือบ่น มองในแง่ลบเสมอๆ จนไม่เกิดผลในที่สุด เขาก็คือหนึ่งในคนที่ต้องอยู่ ภายนอก

“พระองค์ตรัสตอบว่า “ผู้หว่านเมล็ดพืชดีนั้นได้แก่บุตรมนุษย์ และนานั้นได้แก่โลก ส่วนเมล็ดพืชดีได้แก่พลเมืองแห่งแผ่นดินของพระเจ้า แต่ข้าวละมานได้แก่พลเมืองของมารร้าย ศัตรูผู้หว่านเมล็ดพืชเลวได้แก่มารนั้น ฤดูเกี่ยวได้แก่เวลาสิ้นยุค และผู้เกี่ยวทั้งหลายนั้นได้แก่ทูตสวรรค์ เพราะฉะนั้นเขาเก็บข้าวละมานเผาไฟเสียอย่างไร เมื่อเวลาสิ้นยุคก็จะเป็นอย่างนั้น บุตรมนุษย์จะใช้บรรดาทูตสวรรค์ของท่านออกไปเก็บกวาดทุกสิ่งที่ทำให้หลงผิด และพวกผู้ที่ทำชั่วไปจากแผ่นดินของท่าน และจะทิ้งลงในเตาไฟที่ลุกโพลง ที่นั่นจะมีการร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เวลานั้นบรรดาคนชอบธรรมจะส่องแสงอยู่ในแผ่นดินพระบิดาของพวกเขาดุจดวงอาทิตย์ ใครมีหูจงฟังเถิด”
มัทธิว 13:37-43 THSV11

       ข้อที่ 4   คือ ผู้ที่ไม่รักษา โทราห์ น่ะครับที่เป็นข้าวละมาน

“The Son of Man will send forth his angels, and they will collect out of his Kingdom all the things that cause people to sin and all the people who are far from Torah;”
Mattityahu (Mat) 13:41 CJB

       นี้คือ ผู้เชื่อ ที่ไม่รักษาชีวิตให้ตรงตามโทราห์ ครับ ที่ถูกขับไล่ออกไปอยู่ด้านนอก

“แต่เมื่อกษัตริย์องค์นั้นเสด็จไปทอดพระเนตรแขกทั้งหลาย ก็ทอดพระเนตรเห็นคนหนึ่งไม่ได้สวมเสื้อสำหรับงานอภิเษกสมรส จึงตรัสถามว่า ‘เพื่อนเอ๋ย ทำไมท่านมาที่นี่โดยไม่สวมเสื้อสำหรับงานอภิเษกสมรส?’ คนนั้นก็นิ่งอั้นอยู่พูดไม่ออก กษัตริย์จึงมีรับสั่งกับพวกคนรับใช้ว่า ‘จงมัดมือมัดเท้าคนนี้เอาไปโยนทิ้งบริเวณที่มืดข้างนอก ซึ่งเป็นที่มีการร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน’ เพราะว่าคนที่ได้รับเชิญก็มีมาก แต่คนที่ได้รับการทรงเลือกก็มีน้อย””
มัทธิว 22:11-14 THSV11

       ข้อที่ 5 นี้คือ ผู้ที่ได้รับเชิญมางานเลี้ยงแต่ไม่แต่งตัวให้เหมาะสม ซึ่งนั้นหมายถึง ชีวิตเราเมื่อมาเชื่อแต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีเลย ไม่เอาบาปออก และรวมไปถึงไม่เกิดผลด้วยครับ

“พระเยซูเสด็จไปตามบ้านเมืองต่างๆ ทรงสั่งสอนระหว่างทางที่มุ่งไปสู่กรุงเยรูซาเล็ม มีคนหนึ่งมาทูลถามพระองค์ว่า “ท่านเจ้าข้า คนที่รอดนั้นมีจำนวนเล็กน้อยเท่านั้นหรือ?” พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “จงเพียรพยายามเข้าไปทางประตูที่คับแคบ เราบอกท่านทั้งหลายว่า แม้คนจำนวนมากพยายามจะเข้าไป แต่จะเข้าไม่ได้ เมื่อเจ้าของบ้านลุกขึ้นปิดประตูแล้ว และพวกท่านยืนอยู่ภายนอกเคาะที่ประตูว่า ‘นายเจ้าข้า ช่วยเปิดให้เราด้วย’ แต่เจ้าของบ้านนั้นจะตอบท่านว่า ‘เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากไหน’ แล้วท่านจะกล่าวว่า ‘เราเคยกินดื่มกับนาย และนายก็เคยสั่งสอนที่ถนนของเรา’ แต่เจ้าของบ้านนั้นจะกล่าวว่า ‘เราไม่รู้ว่าพวกเจ้าที่ทำความชั่วมาจากไหน จงไปให้พ้นหน้าเรา’ แล้วจะมีการร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันในเวลาที่พวกท่านเห็นอับราฮัม อิสอัค ยาโคบ และบรรดาผู้เผยพระวจนะในแผ่นดินของพระเจ้า แต่ตัวพวกท่านเองก็จะถูกขับไล่ออกไปอยู่ข้างนอก และจะมีคนจากทิศตะวันออก ทิศตะวันตก ทิศเหนือ ทิศใต้ มานั่งร่วมโต๊ะในแผ่นดินของพระเจ้า และแน่นอนว่า ผู้ที่เป็นคนสุดท้ายจะกลับกลายเป็นคนแรก และผู้ที่เป็นคนแรกจะกลับกลายเป็นคนสุดท้าย””
ลูกา 13:22-30 THSV11

       ข้อที่ 6 นี้พูดรื่องทางแคบ นั้นแปลว่า คนที่ไม่พยายามเดินในทางของยาห์เวห์ที่ส่วนกับโลกใบนี้ ( รักษาTorah )

       แม้รู้จักพระองค์ แม้เคยร่วมรับใช้ แม้เคยรับพระพรนานาประการจากพระองค์ แต่เขาไม่รักษาโทราห์ ก็จะอยู่ด้านนอกเช่นกัน

“มิใช่​ทุก​คน​ที่​เรียก​เรา​ว่า ‘พระ​องค์​เจ้า​ข้า, พระ​องค์​เจ้า​ข้า ‘จะ​ได้​เข้า​ใน​เมือง​สวรรค์, แต่​ผู้​ที่​ปฏิบัติ​ตาม​พระทัย​พระ​บิดา​ของ​เรา​ผู้​อยู่​ใน​สวรรค์​นั้น​จึง​จะ​เข้า​ได้. ใน​วัน​นั้น​จะ​มี​คน​เป็น​อัน​มาก​ร้อง​แก่​เรา​ว่า. ‘พระ​องค์​เจ้า​ข้า, พระ​องค์​เจ้า​ข้า, ข้าพ​เจ้า​ได้​สั่ง​สอน​ใน​พระ​นาม​ของ​พระ​องค์, และ​ได้​ขับ​ผี​ออก​ด้วย​พระ​นาม​ของ​พระ​องค์, และ​ได้​กระทำ​การ​อัศจรรย์​มาก​ด้วย​ออก​พระ​นาม​ของ​พระ​องค์​มิใช่​หรือ?’ ขณะนั้น​เรา​จะ​กล่าว​แก่​เขา​ว่า. ‘เรา​ไม่​รู้จัก​เจ้า​เลย. เจ้า​ทั้ง​หลาย​ผู้​ประพฤติ​ล่วง​พระ​บัญญัติ จง​ถอย​ไป​จาก​เรา.’”
มัดธาย 7:21-23 TH1940

       ข้อที่ 7  ผมเลือก ฉบับ 1940 มาให้อ่านเพื่อทุกคนจะได้เห็นว่าแท้จริงควรแปลว่าอะไร ใช่แล้วครับ คนที่ถูกปฏิเสธ คือ คนที่ไม่รักษาบัญญัติ

“พระองค์ตรัสอุปมาต่อไปนี้ว่า “ชายคนหนึ่งปลูกต้นมะเดื่อต้นหนึ่งไว้ในสวนองุ่นของตน และเขามาหาผลที่ต้นนั้นแต่ไม่พบ เขาจึงพูดกับผู้ที่รักษาเถาองุ่นว่า ‘นี่แน่ะ เรามาหาผลที่ต้นมะเดื่อนี้สามปีแล้ว แต่ไม่พบ จงโค่นมันทิ้งไป จะให้ดินจืดไปเปล่าๆ ทำไม?’ แต่ผู้รักษาเถาองุ่นตอบเขาว่า ‘นายเจ้าข้า ขอเก็บเอาไว้อีกปี ลองให้ข้าพเจ้าพรวนดินใส่ปุ๋ยดู ถ้าปีหน้ามันเกิดผลก็ดีไป แต่ถ้าไม่ ท่านจะโค่นมันทิ้งก็ได้’ ””
ลูกา 13:6-9 THSV11

       ข้อที่ 8  นี้ หมายถึง คนที่ไม่เกิดผล

““ท่านทั้งหลายเป็นเกลือแห่งโลก ถ้าเกลือนั้นหมดรสเค็มไปแล้ว จะทำให้กลับเค็มอีกได้อย่างไร ตั้งแต่นั้นไปก็ไม่เป็นประโยชน์อะไร มีแต่จะถูกทิ้งเสียให้คนเหยียบย่ำ”
มัทธิว 5:13 THSV11

       ข้อที่ 9 นี้ ก็หมายถึง  การไม่รับการทรงเรียก ไม่เกิดผลตามสิ่งที่ได้รับ ตามสิ่งที่ถูกสร้างมา

       โอเค ครับโดยสรุปจาก  9  ข้อที่ผมรวบรวมมาให้อ่านในคร่าวเดียวกันนี้อาจจะไม่ครบทั้งหมดแต่สามารถทำให้เราพอสรุปได้ว่า คนแบบไหนที่เข้าข่าย การถูกปฏิเสธ ในวันนั้น กันครับ

       ข้อแรกนี้โดยสรุปคือ คนที่ คิดว่าพระเมสิยาห์ มาช้าเลยปล่อยชีวิตไปตามโลกจนเริ่มทำบาปหนักขึ้นไปเรื่อยๆ

       ข้อที่ 2 นี้เกี่ยวกับหญิงพรหมจารี 5 คนโง่ 5 คนฉลาด  ในข้อนี้โดยสรุปคือ คนที่ไม่เตรียมตัวเช่นกันครับ แม้รักษาชีวิตที่บริสุทธิ์ดีแล้ว แต่ไม่สามารถไปต่อในวันที่มึดมิดได้ สุดท้ายก็ถูกปิดประตูใส่ อยู่ดี

       ข้อที่ 3 นี้ หมายถึง คนที่ไม่เกิดผล และเสียเวลามองตัวเองเป็นเหยื่ออยู่ร่ำไป หรือบ่น มองในแง่ลบเสมอๆ จนไม่เกิดผลในที่สุด เขาก็คือหนึ่งในคนที่ต้องอยู่ ภายนอก

       ข้อที่ 4   คือ ผู้ที่ไม่รักษา โทราห์ น่ะครับที่เป็นข้าวละมาน

       ข้อที่ 5 นี้คือ ผู้ที่ได้รับเชิญมางานเลี้ยงแต่ไม่แต่งตัวให้เหมาะสม ซึ่งนั้นหมายถึง ชีวิตเราเมื่อมาเชื่อแต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีเลย ไม่เอาบาปออก และรวมไปถึงไม่เกิดผลด้วยครับ

       ข้อที่ 6 นี้พูดรื่องทางแคบ นั้นแปลว่า คนที่ไม่พยายามเดินในทางของยาห์เวห์ที่ส่วนกับโลกใบนี้ ( รักษาTorah )

       แม้รู้จักพระองค์ แม้เคยร่วมรับใช้ แม้เคยรับพระพรนานาประการจากพระองค์ แต่เขาไม่รักษาโทราห์ ก็จะอยู่ด้านนอกเช่นกัน

       ข้อที่ 7  ผมเลือก ฉบับ 1940 มาให้อ่านเพื่อทุกคนจะได้เห็นว่าแท้จริงควรแปลว่าอะไร ใช่แล้วครับ คนที่ถูกปฏิเสธ คือ คนที่ไม่รักษาบัญญัติ

       ข้อที่ 8  นี้ หมายถึง คนที่ไม่เกิดผล

       ข้อที่ 9 นี้ ก็หมายถึง  การไม่รับการทรงเรียก ไม่เกิดผลตามสิ่งที่ได้รับ ตามสิ่งที่ถูกสร้างมา

       เมื่อเราดูข้อสรุปทั้ง 9 ข้อนี้แล้วเราจะ แยกเป็นห้วใหญ่ๆได้ดังนี้ครับ

       1  “คนไม่เตรียมตัว” เพราะคิดว่า ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลย ยาห์ชัวไม่กลับมาในยุคของเขาหรอก เลยเริ่มต้นปล่อยชีวิตไปกับกระแสของโลก เริ่มทำบาปเล็กๆจนไปถึงบาปใหญ่ เริ่มต้นข่มเหง ผู้เชื่อกันเอง คนแบบนี้ เริ่มต้น ออกตัวล้อฟรีทุกคนครับ เอาจริงๆเอาจัง รักษาชีวิต เกิดผล คือ ทุกอย่างมาดีหมดครับ  แต่แต่พอนานๆไปเริ่มแพ่ว เริ่มท้อ นั้นเพราะ เขาไม่ได้คำนึงว่า ระยะเวลาอาจจะนานกว่าที่เขาคิด และใจความหลักของการแยกตัวออกจากโลก ไม่ใช่แค่การ “รอการเสด็จกลับมา”  แต่ควรเป็น “หัวใจที่ไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้” มากกว่า นั้นทำให้ ปลายทางของพวกเขา เลวร้ายกว่าคนไม่เชื่อเสียอีก

       2 “คนไม่เกิดผล” คนกลุ่มนี้ เสียเวลามองตัวเองเป็นเหยื่อ มองตัวเองเป็นผู้เสียหายตลอดเวลา แทนที่เขาจะเห็นว่า เขาได้รับอะไรมาจากพระยาห์เวห์ และกำลังจะได้รับอะไรในปลายทางที่เส้นชัยของเขา ส่งผลให้เขาไม่ลึกขึ้นเกิดผล ไม่ช่วยใคร ไม่พัฒนาตัวเอง ไม่มีส่วนในการรับใช้ ใดๆ แต่อยู่ชุมชน อยู่ในความเชื่อน่ะครับ รักษาชีวิต ดูแลชีวิตตัวเองไป แต่ไม่มองออกจากวงกลมรอบตัวเองเลยสักที นั้นทำให้ปลายทางเขาก็ไม่ต่างจากคนไม่เชื่อเช่นกัน

       3 ผู้เชื่อ “ที่ไม่รักษาโทราห์ ”  ในโลกใบนี้มีผู้เชื่อมากมายเลยครับที่ถูกสอนว่า ไม่ต้องรักษาบัญญัติ หรือ โทราห์ แล้ว และยังมีอีกมากมายที่เชื่อว่า เขาสามารถทำบาปต่อไปได้ แค่สารภาพบาปออกมาก็พอ เพราะพระเจ้ามีพระคุณเหลือล้นให้เขา  นี้คือ กับดักที่น่ากลัวที่สุดครับ เราจะเห็นว่าตลอดพระคัมภีร์ใบเบิ้ลทั้งเล่มพูดเรื่องการ เอาชนะบาป การเลิกบาป ดังนั้นจะเป็นไปได้อย่างไร ถ้าเราไม่ต้องรักษาชีวิตให้บริสุทธิ์และ จะสามารถเข้าแผ่นดินสวรรค์ ได้ด้วยการยกมือยอมรับ พระเมสิยาห์ เท่านั้น

       เอาหล่ะครับ  เป็นไงบ้างครับ เมื่อเราสรุป คำเตือนของการถูกปฏิเสธ จาก ยาห์เวห์ เราจะเห็นว่า เราก็อาจเข้าข่ายไม่ข้อใดก็ข้อหนึ่งน่ะครับ ผมไม่ได้เขียนมาเพื่อจะขู่ หรือ ทำให้เสียกำลังใจ แต่เพียงอยากให้เราเข้าใจให้ตรงกันและช่วยกันเสริมสร้างกันในทางที่จะปลอดภัยจริงๆกับจิตวิญญาณของเราทุกคนครับ 

ชาโลม

เอลเดอร์ โป้ง

Post Info

Latest Posts

Share!!

ขออภัยในความผิดพลาด ทางเราได้ทำการแก้ไขการจัดเรียนหน้าในหนังสือ The gates of hell shall not prevail against her ให้ถูกต้องแล้ว

X