Menu
EP 10 “ความสุขบนเรือ”
(TH) “เพราะดูเถิด เราเองจะเป็นผู้ทำให้น้ำท่วมแผ่นดิน เพื่อทำลายมนุษย์และสัตว์ใต้ฟ้าที่มีลมปราณ ทุกสิ่งที่อยู่บนแผ่นดินจะตายสิ้น แต่เราจะตั้งพันธสัญญาของเราไว้กับเจ้า เจ้าจะเข้าอยู่ในเรือ ทั้งตัวเจ้า บรรดาบุตรของเจ้า ภรรยาของเจ้า และบรรดาบุตรสะใภ้ของเจ้า จงนำสัตว์ตัวผู้และตัวเมียทุกชนิดอย่างละคู่จากสัตว์ที่มีชีวิตทั้งปวงเข้าไปไว้ในเรือ เพื่อให้มีชีวิตรอดอยู่กับเจ้า นกตามชนิดของมัน สัตว์ตามชนิดของมัน สัตว์เลื้อยคลานบนแผ่นดินตามชนิดของมัน ทุกชนิดอย่างละคู่จากสัตว์ทั้งปวงต้องมาหาเจ้า เพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้ เจ้าจงนำอาหารทุกอย่างที่กินได้ไปกับเจ้า และสะสมเพื่อเป็นอาหารของเจ้าและของบรรดาสิ่งมีชีวิต” พระเจ้าทรงบัญชาให้โนอาห์ทำอย่างไร โนอาห์ก็ทำอย่างนั้นทุกประการ”
ปฐมกาล 6:17-22 THSV11
ใน EP นี้ เราจะพิจารณาในมุมมองที่แตกต่างออกไปบ้างครับ ผมถึงตั้งชื่อ EP นี้ความ “ความสุขบนเรือ”
เพราะ โนอาห์ ต้องผ่านสภาวะกดดัน อย่างมหาศาล ที่ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ ที่เดียวที่โนอาห์ และครอบครัวจะปลอดภัยที่สุดคืออยู่ในเรือ และรอคอยพระยาห์เวห์ ภายในเรือ มีบรรดาสิงสาราสัตว์ ให้ได้ดูแล มีอาหารที่พอเพียงกับความต้องการในทุกๆวัน และยังมีบุคคลที่รัก คือ ภรรยาและลูก และลูกสะใภ้ ถือเป็นความสุขเล็กๆ ที่ หายากมากๆ ท่ามกลางมหาวิกฤตการณ์ของโลก นี่คือ สุดยอดแห่งพระเมตตาของพระยาห์เวห์ และปลายทางคือ พระสัญญาของขวัญชิ้นใหญ่ที่ยอดเยี่ยมที่สุด
นอกจากความปลอดภัยและการกินดีอยู่รอด และรวมถึง ความสุข ในการได้ดูแล สัตว์ ต่างๆ มันเพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงหัวใจที่หดหู่ และสภาวะที่โดดเดี่ยวกลางสายน้ำมหึมาที่กำลังท่วมโลกแน่นอนครับ ซึ่งใช่แล้ว ในยุคสุดท้าย ที่ยาห์ชัวเปรียบเทียบว่าจะเหมือนกับยุคของโนอาห์ นั้น ก็จะเป็นเฉกเช่นเดียวกัน พระองค์ให้เราเตรียมชีวิตไว้รอเพื่อจะพร้อมในการเข้าไปหลบภัยในถิ่นทุรกันดาร ผมเอง ไปมาแล้ว และขอเป็นพยานว่า เราอยู่ได้และการเลี้ยงดูที่พอเพียงกับความต้องการของเรา จะเกิดขึ้นได้แน่นอน
“เมื่อพญานาคตัวนั้นเห็นว่ามันถูกโยนลงไปที่แผ่นดินโลกแล้ว มันก็ไล่ตามหญิงที่คลอดบุตรชายนั้น แต่พระเจ้าประทานปีกของนกอินทรีใหญ่สองปีกแก่หญิงคนนั้น เพื่อว่านางจะบินเข้าไปในถิ่นทุรกันดารให้พ้นหน้างูตัวนั้น ไปยังสถานที่ของนางที่ซึ่งนางจะได้รับการเลี้ยงดูตลอดหนึ่งวาระ สองวาระ และครึ่งวาระ งูตัวนั้นก็พ่นน้ำออกจากปากเหมือนอย่างแม่น้ำไหลตามหญิงคนนั้น เพื่อจะทำให้นางถูกน้ำซัดไป แต่แผ่นดินช่วยหญิงคนนั้นไว้ โดยแยกออกเป็นช่องแล้วกลืนน้ำที่พญานาคพ่นออกจากปาก”
วิวรณ์ 12:13-16 THSV11
อย่างที่เราได้อ่านแม้จะเป็นครั้งที่ พัน ก็ตาม ทำให้เราแน่ใจได้ว่า พระยาห์เวห์ได้เตรียมสิ่งดีต่างๆให้เราแล้ว แต่มันอยู่ในถิ่นทุรกันดารเท่านั้น เหมือนโนอาห์ ที่อาหาร สัตว์ และครอบครัว ต้องอยู่ในเรือ เราไปที่อื่นไม่ได้
ถ้าในยุคของโนอาห์ คำสั่งของยาห์เวห์ คือให้สร้างเรือ ในยุคเราคำสั่งของยาห์เวห์ ก็คือ จงเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร
และปรับชีวิตให้เหมาะกับการต้องไปอาศัยอยู่ที่นั่น และความสุข ความปลอดภัย การเลี้ยงดู และพระสัญญาในยุคต่อไป จะเป็นของเรา ผู้พร้อมเข้าสู่การปกป้องที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้านี้
“และเราจะนำพวกเจ้าเข้าไปในถิ่นทุรกันดารของชนชาติทั้งหลาย และ ณ ที่นั่นเราจะพิพากษาเจ้าแบบหน้าต่อหน้า เราพิพากษาบรรพบุรุษของเจ้าในถิ่นทุรกันดารแห่งแผ่นดินอียิปต์อย่างไร เราจะพิพากษาพวกเจ้าอย่างนั้น พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้แหละ เราจะให้พวกเจ้าลอดผ่านใต้คทาไป และเราจะให้เจ้าเข้าสู่ข้อผูกมัดของพันธสัญญา”
เอเสเคียล 20:35-37 THSV11
“เพราะเหตุนี้ ดูเถิด เราจะเกลี้ยกล่อมนาง พานางเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร และปลอบใจนาง เราจะให้นางมีสวนองุ่นที่นั่น และทำให้หุบเขาอาโคร์เป็นประตูแห่งความหวัง แล้วนางจะตอบอย่างสมัยเมื่อนางยังสาว อย่างสมัยเมื่อนางออกจากแผ่นดินอียิปต์” “พระยาห์เวห์ตรัสว่า ในวันนั้นเจ้าจะเรียกเราว่า ‘สามีของฉัน’ เจ้าจะไม่เรียกเราว่า ‘พระบาอัลของฉัน’ อีกต่อไป เพราะว่าเราจะเอาชื่อพวกพระบาอัลออกเสียจากปากของนาง นางจะไม่เรียกชื่อนี้อีกต่อไป ในเวลานั้น เราจะทำพันธสัญญากับสัตว์ในป่า กับนกบนฟ้าและสัตว์เลื้อยคลานบนแผ่นดินเพื่อพวกเขา เราจะทำลายคันธนู ดาบและสงครามจากแผ่นดิน และเราจะทำให้เขานอนลงอย่างปลอดภัย เราจะหมั้นเจ้าไว้สำหรับเราเป็นนิตย์ เออ เราจะหมั้นเจ้าไว้ด้วยความชอบธรรม ความยุติธรรม ความรักมั่นคงและความกรุณา เราจะหมั้นเจ้าไว้สำหรับเราด้วยความสัตย์ซื่อ และเจ้าจะรู้จักพระยาห์เวห์”
โฮเชยา 2:14-20 THSV11
ถ้าเราเชื่อในพระสัญญาที่พระองค์ เสนอมาล่วงหน้าให้เราในวันนี้ เราเพียงแค่เชื่อแล้วเริ่มที่จะเตรียมชีวิตของเราให้พร้อมสู่ถิ่นทุรกันดารตั้งแตวันนี้ เราแค่ต้องแยกตัวให้พ้นจากระบบของซาตานให้หมด ระบบเงิน โซเชียลเนตเวิร์ค ระบบอุตสาหกรรมต่างๆ และกลับไปสู่สวนเอเดน ที่เราเป็นผู้ดูพืชพรรณ และสัตว์ต่างๆ และที่สำคัญ คือการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ของเรากับพระยาห์เวห์มาอีกครั้ง เพื่อในวันนั้นเราจะมั่นใจและสามารถมีสันติสุขได้ท่ามกล่างมหาวิกฤตของโลกบาบิโลนที่จะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยในประวิติศาสตร์โลกใบนี้
ชาโลม
เอลเดอร์ โป้ง
EP 10 “ Happiness on the Ark”
(EN) Genesis 6:17-22
And behold, I, even I, am bringing a flood of waters on the earth in order to destroy all flesh in which is the breath of life from under the heavens. Everything which is on the earth shall die. And I will establish My covenant with you. And you shall come into the ark, you and your sons and your wife and your sons’ wives with you. And you shall bring into the ark two of every kind, of every living thing of all flesh, to keep alive with you; they shall be male and female; from the birds according to its kind, and from the cattle according to its kind, from every creeping thing of the ground according to its kind. Two from each shall come in to you to keep alive. And take for yourself all food that is eaten, and gather to yourself. And let it be for you and for them for food. And Noah did so, according to all that Elohim appointed him to do, so he did.
In this EP, we will consider a different perspective. That’s why I named this EP “Happiness on the Ark.”
Because Noah had to face immense pressure that was completely unavoidable, the only place where Noah and his family would be safest was on the ark, waiting for Yahweh. Inside the ark, there were various animals to take care of, sufficient food for daily needs, and there were loved ones, namely his wife, children, and daughter-in-law. This was considered a very rare small happiness amidst the great crisis of the world. This is the ultimate mercy of Yahweh, and the destination is the promise of the greatest gift.
Apart from safety and survival through good nutrition, and including the happiness of caring for various animals, it is enough to nourish the depressed heart and the sense of loneliness amidst the vast waters that are engulfing the world. Indeed, in the end time, which Yahshua compares to the days of Noah, it will be just the same. He has instructed us to prepare our lives, ready to take a refuge in the wilderness. I myself have been there and can testify that we can survive and that sufficient care for our needs can definitely occur.
Revelation 12:13-16
And when the dragon saw that he was cast out onto the earth, he pursued the woman who bore the male child. And two wings of a great eagle were given to the woman, that she might fly into the wilderness, to her place, where she is nourished there for a time, and times, and half a time, away from the serpent’s face. And the serpent spewed water out of his mouth like a river after the woman, that he might cause her to be carried off by the river. And the earth helped the woman, and the earth opened its mouth and swallowed the river which the dragon threw out of his mouth.
As we have read even if it is the thousandth time, it assures us that Yahweh has prepared good things for us, but they are only in the wilderness. Just like Noah, where the food for the animals and family had to be in the ark; we cannot go elsewhere. If in Noah’s time, Yahweh’s command was to build the ark, in our time, Yahweh’s command is to enter the wilderness and adapt life to live there. Happiness, safety, provision, and the promises in the coming age will be ours, those who are ready to enter into the protection that is about to come soon.
Ezekiel 20:35-37
And I will bring you into the wilderness of the peoples, and I will be judging with you there face to face. Just as I was judging your fathers in the wilderness of the land of Egypt, so I will be judging you, declares Adonai YAHWEH. And I will cause you to pass under the rod, and I will bring you into the bond of the covenant.
Hosea 2:14-20
Therefore, behold, I will lure her and bring her to the wilderness, and speak to her heart. And from there I will give her vineyards to her, and the valley of Achor for a door of hope. And she shall answer there as in the days of her youth, and as in the day when she came up out of the land of Egypt. And at that day, says YAHWEH, you shall call Me, My husband; and you shall no more call Me, My Baal.
For I will take away the names of the Baals out of her mouth; and they shall no more be remembered by their name. And in that day I will cut a covenant for them with the beasts of the field, and with the birds of the heavens, and the creepers of the ground. And I will break the bow and the sword, and the battle out of the earth, and I will make them to lie down securely. And I will betroth you to Me forever. Yes, I will betroth you to Me in righteousness, and in judgment, and in mercy, and in compassions. I will even betroth you to Me in faithfulness. And you shall know (Aleph/Tav) YAHWEH.
If we believe in the promises that He has made to us today, we just need to believe and start preparing our lives to be ready for the wilderness from today. We must completely separate ourselves from the system of Satan, including the financial system, social networks, various industrial systems, and return to the Garden of Eden where we look after the plants and animals. Importantly, we need to restore our relationship with Yahweh once again so that on that day we can be confident and have peace amidst the unprecedented crisis of the Babylonian world that has never occurred in the history of this world.
Shalom
Elder Pong
Congregation of YHWH, Thailand ชุมชนของพระยาห์เวห์ แห่งประเทศไทย
