
Torah Today ตอน “ Day of at one ment “
(TH) สวัสดีครับพี่น้องทุกท่านวันนี้มาถึงบทความที่ 2 ในซีรีส์ ที่ชื่อ “Torah to day” วันนี้จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ วันลบมลทินบาป หรือ ภาษาอังกฤษ ใช้คำว่า “Day of Atonement” ซึ่งมาจากคำว่า “ ยมคีปูร์ “ ภาษาไทยใช้คำว่า ”วันลบมลทินบาป“ แต่เอลเดอร์ ดอน มักจะใช้คำว่า “Day of at One Ment” ในการอธิบายความหมายของเทศกาลนี้ และ โดยโดยสรุปใจความก็คือ ”วันแห่งการเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระยาห์เวห์“ เรามาอ่านโทราห์ข้อนี้กันครับ
“พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสส หลังจากบุตรทั้งสองของอาโรนสิ้นชีวิตเมื่อเขาเข้ามาใกล้พระยาห์เวห์ และถึงแก่ความตาย พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “เจ้าจงบอกอาโรนพี่ชายว่า อย่าเข้าไปในอภิสุทธิสถานตามใจชอบ คือเข้าไปในม่านหน้าพระที่นั่งกรุณาซึ่งอยู่บนหลังหีบ เพื่อเขาจะไม่ตาย เพราะว่าเราจะปรากฏในเมฆเหนือพระที่นั่งกรุณา แต่อาโรนจะเข้ามาในอภิสุทธิสถานได้โดยวิธีนี้ คือ ให้เอาโคหนุ่มตัวหนึ่งไปเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาป และแกะผู้ตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัว ให้เขาสวมเสื้อป่านบริสุทธิ์และสวมกางเกงผ้าป่าน คาดผ้าคาดเอวด้วยผ้าป่านและโพกศีรษะด้วยผ้าป่าน นี่เป็นเสื้อตำแหน่งบริสุทธิ์ ให้เขาอาบน้ำแล้วจึงสวม และให้เขานำแพะผู้สองตัวเป็นเครื่องบูชาลบล้างบาปกับแกะผู้ตัวหนึ่งเป็นเครื่องบูชาเผาทั้งตัวจากชุมนุมชนอิสราเอล”
เลวีนิติ 16:1-5 THSV11
ตรงนี้เมื่อเราอ่านจบและลองใช้เวลาพิจารณาสักครู่ ก็จะพบสิ่งสำคัญในพิธีนี้ได้อยู่ 3-4 อย่างคือ
1.อย่าเข้ามาใกล้พระยาห์เวห์ ตามใจชอบ หรือ อยากมาตอนไหน เวลาได้ แบบไหนก็ได้ นั้นเอง แน่นอนครับ พระยาห์เวห์ไม่ได้เล่นตัว หรือไม่อยากพบเจอลูกๆของพระองค์ แต่พระองค์กำลังบอกว่า อย่าเข้ามาด้วยวิธีของเรา( วิธีมนุษย์ ) แต่ให้เข้ามาด้วยวิธีของพระองค์ พระองค์มีเวลานัดพบ เช่น ทุกวันสะบาโต ทุกๆเทศกาลที่พระยาห์เวห์กำหนดไว้ให้ เป็นต้น และด้วยวิธีการที่พระองค์กำหนด
อย่างที่เราทราบดีว่า วัวทองคำ เกิดขึ้นจาก การที่มนุษย์เลือกวิธีเข้าหาพระยาห์เวห์ ตามใจของเข้าเอง ตามแบบที่เขาถนัด ซึ่งเมื่อเราลองมองเข้าไปใน เจตนารมย์ของโทราห์ข้อนี้ ว่าทำไม พระยาห์เวห์ จึงต้อง จริงจัง และ เคร่งครัดกับการเข้าเฝ้าพระองค์ด้วย ให้เราพิจารณาดูผลลัพท์ของการไม่มีข้อกำหนดนี้ก่อน น่ะครับ ดูสิครับ ประชาชนอยาก นมัสการพระยาห์เวห์ แต่ก็เลือกวิธีของตัวเองที่ตัวเองถนัดเท่านั้น ที่ตัวเองสบายตัว ไม่เรียนรู้อะไรใหม่ ไม่เปลี่ยนแปลง นั้นคือ การนมัสการแบบ “วัวทองคำ” ละดูสิครับ พระยาห์เวห์กำหนดชัดเจนว่า ให้ใช้ไฟในการถวายสัตวบูชาแบบไหน แต่ลูกของอาโรนก็คิดว่า “ คงไม่เป็นไรหรอก พระยาห์เวห์เข้าใจแหละ ” และในที่สุดทำให้เขาต้องตาย และคนที่นมัสการวัวทองคำก็ต้องตายเช่นกัน อะไรคือ สาเหตุของโทษตายครับ ?
อย่างที่ผมบอกว่า เราอย่าถือโทราห์เป็นตัวหนังสือ ครับ เพราะเราจะไม่ต่างจากคนยิว เทศกาล และข้อกำหนดในพิธีต่างๆ ทำให้เราเห็นและเข้าใจได้ว่า อย่าเข้ามาหาพระยาห์เวห์ แบบอะไรก็ได้ หรือ อย่าเข้ามาด้วยวิถีของบาปเดิมที่ตัวเก่าเราถนัดหรือเป็นอยู่ นั้นเพราะคุณกำลังไม่ให้เกียรติองค์พระผู้เป็นเจ้าของคุณ และอาจใช้คำว่า คุณกำลัง “ลบหลู่เกียรติของพระองค์” ได้เลย คุณกำลังยกตัวเองขึ้นเหนือกว่าพระองค์ คุณมองออกมั้ยครับ ? ผมจะยกตัวอย่าง เช่น คุณไปประเทศที่เป็นมุสลิม เช่น ซาอุดิอารเบีย แล้วอยากไปพบเจ้าหน้าที่ชั้นสูงสักคน คุณก็เข้าไปโดยไม่นัดหมาย เข้าไปโดยไม่แต่งกายให้สุภาพ และที่สำคัญ คุณเอา“ หัวหมู” ไปฝากเพื่อแสดงความเคารพ เนื่องจากคุณเป็นจีน วัฒนธรรมคุณเป็นแบบนี้ คุณคิดว่า ผู้ใหญ่ท่านนั้นจะพอใจและชื่นชมในหัวใจที่ดีของคุณและชื่นชมวัฒนธรรมของคุณ แต่ใช่แล้วครับในกรณีนีใครก็เดาออกว่า จะต้องเจอกับ อะไร ไม่ติดคุก ก็โดนประหาร หรือไม่ก็โดนโยนออกมาจาก บ้านพักของผู้ใหญ่คนนั้นแน่ๆ แล้วทำไม เราไม่เข้าใจในกรณีของพระยาห์เวห์บ้าง พระองค์ คือ ผู้ใหญ่ที่อยู่ในระดับที่สูงสุดในกัลปจักรวาล ไม่มีใครใหญ่กว่าพระองค์ในโลกนี้แล้ว
เรามาดูข้อต่อไปในสิ่งทีทพระยาห์เวห์ อธิบายเกี่ยวกับการเป็น หนึ่งเดียวกันกับพระองค์
2.การจะเข้าไปพบพระองค์ได้จำเป็นต้อง “ชำระคดีทั้งหมดให้เสร็จสิ้นเสียก่อน” เพื่อจะไม่ต้องพบกับพระพิโรธของพระยาห์เวห์ที่มีต่อคุณ นั้นคือ สาเหตุที่ ต้องมีการถวายสัตวบูชา เสียก่อนที่เข้าเฝ้าพระยาห์เวห์ ได้ แล้วทำไม ทำไมพระยาห์เวห์ต้องไม่พอใจผมด้วย ใช่แล้วครับ ผู้คนสมัยนี้จะเข้าใจอาการแบบนี้ยากขึ้นไปเรื่อยๆ ผมเคยคุณกับน้องวัยรุ่น ยุคใหม่ แต่เขาจะยกมือไหว้ขอบคุณใครสักคนที่ เข้ามาช่วยเหลือเขาแบบที่เขาไม่ได้ขอ แต่สุดท้ายก็ช่วยเขาจากปัญหาที่เขากำลังเจอได้ แค่นี้เขาก็ไม่เข้าใจแล้วว่าทำไม ต้องขอบคุณด้วย ผมนำเรื่องนี้มาพิจารณาผมเข้าใจเลยว่าทำไมพระยาห์เวห์ต้องสอนคนอิสราเอลใหม่ตั้งแต่ต้น เรียกว่า นับหนึ่งกันใหม่เลย
และแท้จริงพระองค์กำลังสอน “ท่าที” ในการเข้าหา และมันเป็นท่าทีในใจซ่ะด้วย ในการมองสถานะตัวเองและสถานะของพระองค์ นี้คือการแสดงให้เห็นความจริงเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้นั้น ลำพองในใจว่า ตนเองคือผู้ที่สำคัญเกินกว่าความเป็นจริง สิ่งนี้ ไม่ง่ายจะเข้าใจสำหรับคนยุคนั้นและยุคนี่ด้วย หลักการสวยๆเรื่องการเท่าเทียม มันล้างสมองคนยุคใหม่ให้หลงไปจากความเป็นจริงไกลออกไปเรื่อยๆ
และที่สำคัญ สัตวบูชา คือสิ่งที่ย้ำเตือนถึงบาปของพวกเขา ให้เขารู้ตัวเสมอว่า วิถีชีวิตที่เขาเป็นยังไม่ใช่วิถีชีวิตที่จะเข้าใกล้พระยาห์เวห์ได้ เขาจึงจำเป็นต้องมีตัวแทนในการสละชีวิต และแน่นนอน ครับ “ไม่มีสัตว์ตัวไหน แทนความผิดของมนุษย์จริงๆ ” แล้ว ปุโรหิต เข้าไปพบพระยาห์เวห์ได้อย่างไร ทำไมเขาไม่ตาย ? ใช่แล้ว นี้คือพระเมตตา ของพระยาห์เวห์ ตั้งแต่สมัยโน้นแล้ววว สัตว์ตัวไหนก็ไม่พอจะชำระความผิดเราได้ แต่พระยาห์เวห์ อนุญาติให้มีตัวแทนไปเข้าพบได้ก็โดยพระเมตราเท่านั้น ถึงเรียก หีบพันธสัญญาว่า “พระที่นั่งแห่งพระกรุณา” ไงครับ
เอาจริงๆ คุณไม่มีทางจะได้พบพระองค์หรอก คุณไม่มีทางที่จะขออะไรจากพระองค์ได้เลย ถ้าเราว่าด้วยหลักยุติธรรม ทำไมหล่ะ ก็คุณไม่สมควรไง ทำไมพูดแบบนี้หล่ะ ก็คุณทำผิดอยู่ คุณต้องคดีบางอย่างอยู่ ใครจะมาคุยกับคนที่มีคดีติดตัวอยู่หล่ะ แต่นั้นไม่ใช่พระยาห์เวห์
พระองค์มีน้ำพระทัยจะช่วยมนุษย์ทุกคนให้รอดจากคดีต่างๆ พระองค์พยายามสอนหัวใจคุณให้บริสุทธิ์
“คนที่มีใจบริสุทธิ์ ก็เป็นสุข เพราะว่าเขาทั้งหลายจะได้เห็นพระเจ้า”
มัทธิว 5:8 THSV11
ให้คุณมีหัวใจที่สำนึกในการช่วยเหลือจากพระองค์เสมอ กลับใจเสมอ และหัวใจที่จะเตือนตัวเองไม่ให้กลับไปทำผิดอีก นั้นจึงเป็นสาเหตุให้อาโรนและปุโรหิต ต้องทำสิ่งต่อไป
3.ปุโรหิต ต้องชำระร่างกายให้สะอาด และ ส่วมเสื้อผ้าตำแหน่งที่สะอาดบริสุทธิ์ เท่านั้น ใช่แล้วครับ นี้ตือสิ่งที่ย่ำเตือนทุกคนที่จะเข้าเฝ้าพระยาห์เวห์ว่า คุณต้องบริสุทธิ์ เพราะพระยาห์เวห์ บริสุทธิ์
“เช่นเดียวกับบุตรที่เชื่อฟัง อย่าประพฤติตามกิเลสตัณหา อันเกิดจากความโง่เขลาของพวกท่านในอดีต แต่พระองค์ผู้ทรงเรียกพวกท่านนั้นบริสุทธิ์อย่างไร พวกท่านเองก็จงเป็นคนบริสุทธิ์ในชีวิตทุกด้านอย่างนั้น เพราะมีคำเขียนไว้แล้วว่า “พวกท่านจงเป็นคนบริสุทธิ์ เพราะเราเองบริสุทธิ์” และถ้าพวกท่านร้องเรียกพระองค์ว่าพระบิดา ผู้ทรงพิพากษาอย่างไม่มีอคติตามการกระทำของแต่ละคน พวกท่านก็จงดำเนินชีวิตด้วยความยำเกรงในเวลาที่พวกท่านอยู่ในโลกนี้ พวกท่านรู้ว่าพวกท่านได้รับการไถ่ออกจากการดำเนินชีวิตที่ไร้สาระ ซึ่งตกทอดมาจากบรรพบุรุษของพวกท่าน ไม่ใช่ไถ่ด้วยสิ่งที่เสื่อมสลายได้เช่นเงินหรือทอง แต่ด้วยพระโลหิตล้ำค่าของพระเมสิยาห์ ดังเลือดลูกแกะที่ไร้ตำหนิและไร้จุดด่างพร้อย”
1 เปโตร 1:14-19 THSV11
และแน่นอน การจะไม่รักษาโทราห์เป็นตัวหนังสือ คือ การที่เราต้องมองให้ลึกลงไปถึง เจตนารมย์ และ จิตวิญญาณของโทราห์ในข้อนี้ ครับ การแต่งกายให้สะอาด จะมีประโยชน์อะไรถ้าใจคุณสกปรก คุณทราบดีว่า พระยาห์เวห์ ทรงทราบจิตใจของมนุษย์ทุกคนและใช่แล้ว การแต่งกายที่สะอาด ส่วมเสื้อตำแหน่งของปุโรหิตที่ยาห์เวห์เป็นผู้กำหนด และอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด คือ ขั้นต่ำ แต่เราต้องเดินไปสู่ ใจที่สะอาดบริสุทธิ์ วิถีชีวิตที่บริสุทธิ์ และ ก้าวไปสู่ การส่วมเครื่องแต่งกายประจำตำแหน่ง นั้นคือ การรับการทรงเรียกสูงสุดในชีวิตคุณนั้นเอง ยาห์ชัวย้ำเตือนเราอีกครั้งใน อุปมา อุปมัย เรื่องงานเลี้ยงไงครับ
“แต่เมื่อกษัตริย์องค์นั้นเสด็จไปทอดพระเนตรแขกทั้งหลาย ก็ทอดพระเนตรเห็นคนหนึ่งไม่ได้สวมเสื้อสำหรับงานอภิเษกสมรส จึงตรัสถามว่า ‘เพื่อนเอ๋ย ทำไมท่านมาที่นี่โดยไม่สวมเสื้อสำหรับงานอภิเษกสมรส?’ คนนั้นก็นิ่งอั้นอยู่พูดไม่ออก กษัตริย์จึงมีรับสั่งกับพวกคนรับใช้ว่า ‘จงมัดมือมัดเท้าคนนี้เอาไปโยนทิ้งบริเวณที่มืดข้างนอก ซึ่งเป็นที่มีการร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน’ เพราะว่าคนที่ได้รับเชิญก็มีมาก แต่คนที่ได้รับการทรงเลือกก็มีน้อย””
มัทธิว 22:11-14 THSV11
ทั้งหมดมันสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นภายในใจเราทั้งนั้นครับ ยาห์เวห์ไม่สนใจหรอกคุณ มีเสื้อผ้าแพงและดีแค่ไหน แต่พระองค์สนใจว่า คุณให้สิ่งที่ดีที่สุดเป็นมั้ย ? คุณให้เกียรติพระองค์เป็นมั้ย ? คุณเข้าใจความสำคัญของตัวเองในฐานะที่คุณเป็นตัวแทนของอาณาจักรของพระองค์ หรือเป็นทูตของพระองค์มั้ย ? คุณมองมันออกมั้ย ? คุณเข้าใจความปรารถนาที่พระยาห์เวห์อยากนำคุณเข้ามาใกล้ ให้สมพระเกียรติของพระองค์มากแค่ไหน ? หรือ คุณมั๊กง่าย ดูถูกการทรงเรียก คุณเป็นคนอะไรก็ได้ เคารพคนไม่เป็น เคารพตัวเองก็ไม่เข้าใจ มองคุณค่าในเรื่องของจิตวิญญาญก็ไม่ออก แล้วยังต่อต้านเรื่องทำนองนี้อีก คุณมองมันออกมั้ย ? ว่าจิตวิญญาณของคุณสกปรกเพียงใด เพื่อคุณจะสำนึกในสิ่งที่ยาห์เวห์ และยาห์ชัว พยายามช่วยเหลือคุณอย่างสุดกำลังคุณมองเห็นพระเมตตาอันนี้ของพระองค์มั้ย ?
4.แกะสองตัว ตัวหนึ่งตาย อีกตัวหนี่งมีชีวิต แน่นอน นี้คือตัวแทนของพระเมสิยาห์ครับ พระองค์ สิ้นพระชนม์เพื่อเรา และพระองค์ฟื้น พระองค์ รับบาปทั้งหมดแทนเรา และนี้คือ สิ่งเดียวที่ทำให้เราสามารถเข้าใกล้และเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระยาห์เวห์ได้ ผมต้องใช้คำว่า นี้เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เราได้มีโอกาสเข้าใกล้เพื่อจะเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระองค์ได้อีกครั้ง หลังจากการล้มลงในสวนเอเดน น่ะครับ เรื่องนี้ผมเชื่อว่า คงไม่ต้องอธิบายมาก เท่าไร แต่ก็ต้องพูดถึงเพราะนี้คือกุญแจสำคัญที่สุด เพราะสุดท้ายยาห์เวห์มองไปไกลกว่าแค่เราจะกลับมามีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระองค์ แต่พระองค์ต้องการให้เรามีชีวิตที่จะไม่ตายอีกและร่วมครอบครองโลกใบนี้ไปกับพระองค์ เลยทีเดียว มันไกลกว่าที่มนุษย์จะคาดหวังได้จริงๆครับ
สุดท้าย เรามองเห็นความปรารถนาของพระองค์ที่อยากเป็นกายเดียวกัน ( Echad ) ระหว่างเรากับพระองค์ บ้างมั้ย ? นั้นคือสิ่งที่ผมอยากให้เราได้พิจารณาท่าทีในใจของเราในทุกๆวัน “ การเข้าหา วิธีการ พิธีต่างๆ เสื้อผ้า หน้า ผม” มันเป็นของภายนอกครับ แต่มันสะท้อนภายในได้ดีมากๆเลยแหละ และจิตวิญญาญที่แท้จริงของโทราห์มุ่งไปที่สภาพของจิตใจ ไม่ใช่ ภายนอก ไม่ใช่ การแต่งตัว ไม่ใช่ของถวาย ไม่ใช่วิธีการ แต่สิ่งเหล่านี้สามารถโชว์สภาพจิตใจของเราว่าเราเชื่อฟังได้มั้ย ? เราซื่อสัตย์มั้ย? เรายุติธรรมมั้ย? เราถ่อมจริงมั้ย? เราสำนึกจริงๆมั้ย? และอื่นๆอีกมากมาย ผ่านของภายนอกเหล่านี้ครับ และ คุณไม่สามารถบอกได้ถึงสภาพภายในจิตใจของคุณว่าสะอาดยอดเยี่ยมโดยที่ภายนอกยังคุณสกปรกและไร้ระเบียบอยู่ ฉันใด ”ความเชื่อ“ ที่ปราศจาก”การกระทำ“ ก็ตายแล้วด้วยตัวอันเอง ฉันนั้นครับ รักษาโทราห์ด้วยหัวใจกันน่ะครับ ผมขอจบไว้เท่านี้ครับ
ชาโลม
เอลเดอร์ โป้ง
Congregation of YHWH, Thailand ชุมชนของพระยาห์เวห์ แห่งประเทศไทย
ขออภัยในความผิดพลาด ทางเราได้ทำการแก้ไขการจัดเรียนหน้าในหนังสือ The gates of hell shall not prevail against her ให้ถูกต้องแล้ว