Message from the wilderness. Day 14-15/30, 2025 

       ชาบัท ชาโลม ทุกๆคนครับ สบายดีกันมั้ยครับทุกคน ก่อนอื่นต้องขออภัยที่ เมื่อวานหายไปหนึ่งวันเพราะ ออกไป Field Trip มาครับ อย่างที่เคยบอกไว้ว่า เอลเดอร์ ดอนจะพาออกไปนอกสถานที่ เลยไม่มีเวลาที่จะเขียนบทความถึงทุกคนตามที่ตั้งใจไว้เลยครับ วันนี้เลยจะขอรวบ ครั้งที่ 14 และ 15 ให้อยู่ในบทความเดียวกันเลยครับ

       ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับครอบครัว ของเจ และ เอมมี่ ที่ได้คลอด ลูกชาย น้อง ศิโยน ออกมาในเช้าวันนี้เรียบร้อยแล้ว น่ารักแข็งแรง และเห็นคุณแม่เอมมี่บอกว่า คลอดง่ายมากๆ ครับ และในขณะเดียวกันก็แสดงความห่วงใย และอยากขอคำอธิษฐานเผื่อป๊า นพ ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ โรงพยาบาล ที่ กทม น่ะครับ เนื่องจากอาการขา บวม ยังไงก็ฝากพี่น้อง ชาว ชุมชนของพระยาห์เวห์ในประเทศไทย ส่งกำลังใจ และคำ อธิษฐาน ให้ ป๊า นพ ด้วยนะครับ

       เอาหละ มาเริ่มเข้าสู่เรื่องราวดีๆ ประจำวันนี้กันดีกว่าครับ  อย่างที่บอกว่า เมื่อวานไป นอกสถานที่มา คือ แม่น้ำจอร์แดน ถ้ำโลท และสุดท้ายคือ ภูเขาเสลาห์ ก็จะขอพูดถึง สามสถานที่นี้ นะครับ ที่แรกคือ แม่น้ำจอร์แดน ซึ่งมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นที่นี่ครับ อย่างแรกคือ นี่เป็นจุดที่ ยาห์ชัว พระเมสิยาห์ ได้รับ บัพติสมา โดย ยอห์น ผู้ให้บัพติสมา และหลังจากนั้นพระองค์ ก็เข้าสู่ถิ่นทุรกันดาร 40 วัน แล้วจึงเริ่มทำพันธกิจของพระองค์ นอกจากนั้น ณ บริเวณเดียวกัน ยังเป็นจุดที่ เอลียาห์ถูกรับไป แต่ไม่ได้ขึ้นไปสวรรค์ นะครับ เพียงแค่ถูกนำไปอีกทีที่นึง เท่านั้น และสิ่งนี้คือสิ่งที่ผมอยากขออธิบายในวันนี้เพราะ เราทุกคนแม้กระทั้งผมก่อนหน้านี้จะถูกสอนมาว่า โลกใบนี้ มี เอลียาห์ และอีกคนคือ เอโนค ที่ไม่ประสพความตาย คือพวกเขาทั้งสอง ถูกรับขึ้นไปบนสวรรค์ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ใช่มั้ยครับ

       สิ่งนี้เป็นความเชื่อเดิมที่ไม่ตรงกับความจริงบนพระคัมภีร์ ครับ อย่างแรกคือ ยาห์ชัว ได้ทรงสอนว่า ไม่เคยมีมนุษย์คนไหนเคยไปสวรรค์

“ไม่มีใครเคยขึ้นไปสวรรค์นอกจากผู้ที่ลงมาจากสวรรค์ คือบุตรมนุษย์”
ยอห์น 3:13 THSV11

       ใช่แล้วครับ ดังนั้นความเชื่อที่ว่า สองคนนี้ถูกรับไปสวรรค์ นั้นจะไม่ตรงกับสิ่งที่ยาห์ชัวได้สอนพวกเราเอาไว้ และอีกประการคือ หาก เอลียาห์และเอโนค มีชีวิต อมตะ จริงๆ ยาห์ชัวก็จะไม่ใช่มนุษย์คนแรกที่ได้ชีวิต อมตะ และพระองค์จะไม่ใช่ผลแรก ซึ่งแน่นอน สิ่งนี้คงเป็นไปไม่ได้ เพราะต่างรู้ว่า ยาห์ชัว คือ มนุษย์คนแรกที่เอาชนะความตายได้สำเร็จ

“แต่บัดนี้ พระเมสิยาห์ทรงถูกทำให้เป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว และทรงเป็นผลแรกของพวกที่ล่วงหลับไป”
1 โครินธ์ 15:20 THSV11

       ประการที่ สาม คือ ในพระธรรมฮีบรู บทที่ 11 ข้อที่ 13 กล่าวไว้แบบนี้ครับ

“คนเหล่านี้ทั้งหมดตายในขณะที่ยังมีความเชื่ออยู่ และยังไม่ได้รับสิ่งต่างๆ ที่ทรงสัญญาไว้ แต่พวกเขาก็สังเกตเห็นแต่ไกลและรอรับด้วยใจยินดี และยอมรับว่าพวกเขาเป็นคนแปลกถิ่นที่ท่องเที่ยวไปในโลก”
ฮีบรู 11:13 THSV11

       เราทราบดีว่า ฮีบรู 11 คือ รวบรวมบุคคลผู้มีความเชื่อระดับตำนาน เช่น อับบราฮัม เอโนค โนอาห์ ดาวิด ดาเนียล และอีกมากมาย สังเกตุ ดูครับ ในข้อที่ 13 บอกว่า คนทั้งหมดนี้ “ตายขณะที่ยังไม่ได้พระสัญญา” นั้นคือ การฟื้น พวกเขายังหลับอยู่จนทุกวันนี้ นั่นหมายความว่า เอโนค และ เอลียาห์ ก็เช่นกัน หลังจากพวกเขา ถูกรับขึ้นไปบนฟ้า เพื่อนำไปอีกที่ นั้น พวกเขายังปลอดภัยดี แล้วก็ใช้ชีวิตอยู่และตายไปตามอายุขัย และรอการฟื้นพร้อมๆกับทุกคนนั่นเอง แต่เราอาจมีข้อโต้แย้ง ในฮีบรูที่ว่า

“โดยความเชื่อ เอโนคจึงถูกรับขึ้นไปเพื่อไม่ให้ท่านประสบกับความตาย ไม่มีผู้ใดพบท่านเพราะพระเจ้าทรงรับท่านไปแล้ว เพราะก่อนที่จะรับท่านขึ้นไปนั้น ท่านได้รับการรับรองแล้วว่าท่านเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า”
ฮีบรู 11:5 THSV11

    ข้อนี้ภาษาไทยแปลออกมาได้เข้าใจได้ง่ายมากว่า เอโนค เป็นอมตะ แต่หากเราไปดูในฉบับ HBR

       Heb 11:5  By faith “Enoch was translated so as not to see death, and was not found, because Elohim translated him.” For before his translation, he had obtained witness to have been pleasing to Elohim. °

       ข้อนี้ เอลเดอร์ ดอน อธิบายไว้ว่านี้ไม่ได้แสดงว่า เอโนคไม่ตาย แต่หมายถึง ในขณะที่ เขาถูกรับไป ไม่ว่าด้วยวิธีใด ที่ไม่ใช่อาการปกติ เขาปลอดภัยดี เช่น อาจจะเป็นการถูกลมพายุหอบขึ้นฟ้าไป แต่ถ้าปกติ ก็จะตกลงมาเสียชีวิตใช่มั้ยครับ แต่เขาไม่เป็นอะไร คือ ปลอดภัยดี นั่นคือ ความหมายของข้อพระคำนี้ และนั่นถูก สรุปอีกครั้งในข้อ 13 ว่าทุกคนตายหมด นั่นรวมเอโนคด้วย

       อีกประการนึง คือ เราทราบดี หลังจากน้ำท่วมโลก มีเพียง 8 ชีวิต 8 จิตวิญญาณที่รอด ชีวิตมาเพื่อเริ่มพงศ์พันธุ์ใหม่ให้กับโลกใบนี้ ตรงนี้ เราไม่พบเห็นว่า เอโนค อยู่บนเรือลำนี้เลยจริงมั้ยครับ

       ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่ทำให้เราเห็นจริงๆ ว่า ยังมีอีกหลายสิ่งที่เราถูกสอนมาแบบที่ไม่ตรงตามความจริงในพระคัมภีร์ครับ เพราะเราจะสามารถแยกเยะคำสอนที่ ถูกต้อง หรือ คำสอนที่บิดเบี้ยว ได้นั้นเอง  จบหัวข้อในวันที่ 14

       เอาหล่ะครับ มาถึงอีกเรื่องที่ เป็นของ วันที่ 15 คือวันนี้ ผมเองอยากพูดถึง ภูเขาเสลาห์ ครับ เพราะเป็นที่สุดท้ายที่เมื่อวานเราได้ไปกัน และมันยังคงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นในทุกๆ ครั้งที่ผมได้ไป เราบางท่านทราบดีว่า นี้คือ จุดนัดพบสุดท้ายที่ผู้ที่เหลือรอดและถูกเลือกจะมารวมกัน เหตุการณ์นี้ถูกพูดไว้ใน วว12

       “เมื่อพญานาคตัวนั้นเห็นว่ามันถูกโยนลงไปที่แผ่นดินโลกแล้ว มันก็ไล่ตามหญิงที่คลอดบุตรชายนั้น แต่พระเจ้าประทานปีกของนกอินทรีใหญ่สองปีกแก่หญิงคนนั้น เพื่อว่านางจะบินเข้าไปในถิ่นทุรกันดารให้พ้นหน้างูตัวนั้น ไปยังสถานที่ของนางที่ซึ่งนางจะได้รับการเลี้ยงดูตลอดหนึ่งวาระ สองวาระ และครึ่งวาระ งูตัวนั้นก็พ่นน้ำออกจากปากเหมือนอย่างแม่น้ำไหลตามหญิงคนนั้น เพื่อจะทำให้นางถูกน้ำซัดไป แต่แผ่นดินช่วยหญิงคนนั้นไว้ โดยแยกออกเป็นช่องแล้วกลืนน้ำที่พญานาคพ่นออกจากปาก”
วิวรณ์ 12:13-16 THSV11

       ใช่แล้วครับ เสล่าห์ คือ ถิ่นทุรกันดาร ใที่วิวรณ์ 12 พูดถึง จุดนี้ เจ้าสาวของพระเมสิยาห์จะมารวมกันเพราะถูกปกป้องจากภัยคุกคามของ ซาตาน ในช่วงสุดท้าย ท้ายสุดจริงๆ และ ขณะที่เจ้าสาวถูกแอบซ่อนไว้ใต้ปีกของยาห์เวห์ ที่เสล่าห์ ในบริเวณใกล้ๆ ก็มีสงครามที่ดุเดือด อันเกิดจากการตามล่าจากซาตานที่ประชิดมาใกล้เสล่าห์ นั้นคือ บริเวณสมรภูมิ ที่ โบสรา

“นี่ใครหนอมาจากเอโดม สวมเสื้อผ้าสีแดงจากเมืองโบสราห์? นี่ใครหนอสวมเครื่องแต่งกายของท่านอย่างโอ่อ่า และมาด้วยกำลังยิ่งใหญ่ของท่าน? “คือเราเองที่ร้องประกาศความชอบธรรม และมีอานุภาพที่จะช่วยให้รอด” ทำไมฉลองพระองค์ของพระองค์จึงมีสีแดง และเครื่องทรงของพระองค์เหมือนของคนย่ำในบ่อย่ำองุ่น? “เราย่ำบ่อองุ่นตามลำพัง และไม่มีใครจากชนชาติทั้งหลายอยู่กับเราเลย เราย่ำมันด้วยความโกรธของเรา เราเหยียบมันด้วยความพิโรธของเรา โลหิตของเขาเปื้อนอยู่บนเสื้อผ้าของเรา และเราทำให้เครื่องแต่งกายของเราเลอะไปหมด เพราะวันแห่งการแก้แค้นอยู่ในใจเรา และปีแห่งการไถ่ของเรามาถึง เรามองดู แต่ไม่มีใครช่วยเหลือ เราประหลาดใจ แต่ไม่มีผู้เกื้อหนุน แขนของเราเองจึงนำการช่วยกู้มาให้เรา และความโกรธของเรานั้นเกื้อหนุนเรา เราเหยียบชนชาติทั้งหลายลงด้วยความโกรธของเรา เราทำให้เขาเมาด้วยความพิโรธของเรา และเราเทโลหิตของพวกเขาบนแผ่นดินโลก””
อิสยาห์ 63:1-6 THSV11

       ซึ่ง โบสราหากจากเสล่าห์ เพียง 20 กิโลเมตร ภาพเหตุการณ์ ตรงนี้ทำให้เราเห็นความรักอันยิ่งใหญ่ของเจ้าบ่าวที่รักและห่วงแหนเจ้าสาวของพระองค์ เป็นอย่างยิ่ง และเพราะแก้วตาดวงใจของพระองค์ คือ กลุ่ม เจ้าสาวจากทั่วโลกมารวมกันที่เสล่าห์ กำลังตกอยู่ในอันตราย นั่นคือ เหตุผลที่ พระองค์ เสด็จออกมาเพื่อปกป้อง ด้วยความโกรธแบบสุดๆ นั่นทำให้เราพอจะสัมผัสความรักที่ยาห์ชัวมีต่อเรา หากเราเป็นเจ้าสาวของพระองค์

       นี้คือ ฉากที่ เจ้าบ่าว เสด็จมาเพื่อรับเจ้าสาวของพระองค์ ที่เสล่าห์ เพื่อพาเข้าสู่ ภูเขาศิโยน ที่เยรูซาเล็ม เพื่อยึดคืนโลกใบนี้คืนจาก ซาตาน

“ที่รักของดิฉันได้เอ่ยปากพูดกับดิฉันว่า “ที่รักของฉันเอ๋ย เธอจงลุกขึ้นเถอะ คนสวยของฉันเอ๋ย ออกมากับฉันเถิด เพราะว่า นี่แน่ะ ฤดูหนาวล่วงไปแล้ว และฝนก็หมดแล้ว ดอกไม้เบ่งบานไปทั่วพื้นดิน เวลาสำหรับร้องเพลงมาถึงแล้ว และเสียงคูของนกเขา ก็ได้ยินอยู่ในถิ่นของเรา ผลมะเดื่อกำลังสุกบนต้น และเถาองุ่นมีดอกบานอยู่ มันส่งกลิ่นหอมฟุ้ง ที่รักของฉันเอ๋ย จงลุกขึ้นเถอะ คนสวยของฉันเอ๋ย ออกมากับฉันเถิด โอ แม่นกเขาของฉันเอ๋ย แม่นกตัวที่อยู่ซอกผา ในที่กำบังของเขาที่สูงชัน ขอให้ฉันได้ชมรูปโฉมของเธอหน่อยเถอะ ขอให้ฉันได้ยินเสียงของเธอหน่อย เพราะว่าน้ำเสียงของเธอช่างหวานหู และรูปโฉมของเธอช่างงามวิไล”
เพลงซาโลมอน 2:10-14 THSV11

       เราจะเห็นว่า คำว่า ซอกผา นั่นคือ เสล่าห์ นั่นเอง  ครับ และในอีกมุมหนึ่งจาก วว.12 บอกให้เราทราบถึง ชะตากรรมของผู้เชื่อที่ไม่ได้เตรียมตัวเป็นเจ้าสาว แม้พวกเขามาถึงความจริง แต่ครึ่งๆ กลางๆ ไม่เตรียมตัวเขาที่ซ่อน ไม่ออกจากระบบของซาตาน มาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา

“และพญานาคก็โกรธแค้นหญิงนั้น มันจึงออกไปทำสงครามกับพงศ์พันธุ์ที่เหลืออยู่ของนาง คือคนทั้งหลายที่รักษาพระบัญญัติของพระเจ้าและยึดถือคำพยานของพระเยซู”
วิวรณ์ 12:17 THSV11

       นั่นคือพวกเขาจะถูก ข่มเหงอย่างหนัก ถูกฆ่า และพวกเขาจะยอมสละชีวิตเพื่อรักษาความเชื่อเอาไว้ แต่บางคนก็อาจละทิ้งความเชื่อเพระกลัวจะเสียชีวิต นั่นทำให้ทุกอย่างที่เขาทำมา สูญเปล่า เพราะจุดนั้นเมื่อเขาเลือกปฏิเสธ ยาห์ชัว เขาก็สูญเสียชีวิตนิรันดร์ไปนั่นเอง

       มาถึงจุดนี้มันสะท้อนอะไรเราในวันนี้บ้างครับ เราเตรียมตัวเองให้เป็นคนกลุ่มไหน เราตอบสนองต่อบัตรเชิญที่ยาห์ชัวมอบให้อย่างไร เราได้รับการสอนแล้วว่าความจริงคืออะไร ปลายทางคืออะไร วิธีต่างๆทำอย่างไร เราตอบรับคำเชิญเหล่านี้หรือไม่  หรือ แท้จริง เราไม่ได้เชื่อเรื่องราวเหล่านี้เลย คำตอบทั้งหมด อยู่ในเราแต่ละคนในปัจจุบันนี้ครับ

ชาบัท ชาโลม

เอลเดอร์ โป้ง

Post Info

Latest Posts

Share!!

ขออภัยในความผิดพลาด ทางเราได้ทำการแก้ไขการจัดเรียนหน้าในหนังสือ The gates of hell shall not prevail against her ให้ถูกต้องแล้ว

X