
สวัสดีครับทุกๆ คนเราเดินทางมาถึงวันที่แปดแล้วนะครับ และนี้ก็เป็นสะบาโตที่สองแล้วที่ผมอยู่ที่ดินแดนโบราณที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ของพระยาห์เวห์ ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากๆ เพราะดินแดนเสลาห์ ที่เราอยู่นี้ คือดินแดนเดิมของคนเอโดม ซึ่งบรรพบุรุษของเขาคือเอซาว และในเชื้อสายของเอซาวก็มีบุคคลสำคัญคนหนึ่งนั่นคือ โยบ ซึ่งโยบเป็นคนเมือง อูส ซึ่งก็คือ ดินแดนของคนเคไนต์ และคนเคไนต์ก็คือ คนเรคาบ ซึ่งเป็นมนุษย์เต็นท์ที่ยังคงรักษาคำสั่งของบรรพบุรุษของพวกเขาไว้อย่างดีจนมีบันทึกว่ายาห์เวห์เอ่ยชมและชี้ให้อิสราเอลดูเป็นตัวอย่างในเยเรมีห์ 35
และปัจจุบันยังคงเห็นพวกเขาอยู่ในจอร์แดน และดินแดนที่พูดมาข้างต้นคือดินแดนภูเขาเสอีร์ ที่พระยาห์เวห์ทรงสถิตอยู่กับคนพื้นถิ่นที่นี่ก่อนอิสราเอลด้วยซ้ำ และคนเคไนต์ที่โด่งดังที่สุดในพระคัมภีร์คือ เยโธรพ่อตาของโมเสสนั่นเอง และเราทราบดีว่าเยโธรนมัสการพระยาห์เวห์และสอนโมเสสให้รู้จักกับพระยาห์เวห์อีกด้วย นั่นมันยอดเยี่ยมมากๆครับที่เรื่องราวเหล่านี้ถูกปิดไว้จากโลกใบนี้แต่กลับถูกเปิดเผยให้กับบุคคลที่พระยาห์เวห์เลือกสรรและขอบคุณพระยาห์เวห์ที่เราได้มีโอกาสได้รับรู้ข้อมูลนี้ซึ่งเอลเดอร์ดอนได้แบ่งปันไว้เมื่อวานครับนี้เป็นแค่บางส่วนเท่านั้น ที่สำคัญใช่แล้วผมนอนอยู่ที่ดินแดนนี้มา 8 วันแล้ว ว้าวววววว
เอาหละครับมาถึงเรื่องราวดีๆสำหรับวันที่แปดนี้กันดีกว่า คำถามนึงที่เราชาวชุมชนของพระยาห์เวห์มักมีคำถามในใจเสมอคำถามนึงก็คือ เรารู้ได้อย่างไรว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตกับเราแล้วจริงๆ วันนี้เอลเดอร์ ดอน เทศนาเรื่องนี้ซึ่งผมจะไม่ยอมพลาดที่จะแบ่งปันสิ่งนี้ให้กับทุกคนแน่นอนครับ เราทุกคนเมื่อตัดสินใจเข้าสู่พันธสัญญาแล้ว เป้าหมายที่เด่นชัดที่สุดคือการเป็นได้เหมือนกับยาห์ชัวใช่มั้ยครับ พระองค์จึงแนะนำให้เราเรียนรู้และเดินตามพระองค์
“บรรดาผู้เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายได้หยุดพัก จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพอ่อนโยนและใจอ่อนน้อม และจิตใจของพวกท่านจะได้หยุดพัก”
มัทธิว 11:28-29 THSV11
และมันยอดเยี่ยมมากที่เรามีพระวิญญาณบริสุทธิ์ของยาห์ชัวอยู่ในเราทุกคนที่ได้รับบัพติสมาอย่างถูก ตาม กิจการบทที่ 8 แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่ได้รับบัพติสมาใหม่แล้วจะมีพระวิญญาณสถิตกับเขาตลอดไปนั้นเหตุเพราะหากเขาไม่ได้กลับใจจริงๆ และไม่ดำเนินตามพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็จะสูญเสียการทรงสถิตไปอย่างแน่นอนครับ และในทางกลับกัน พระวิญญาณบริสุทธิ์ของยาห์ชัวที่อยู่ในเราจะเป็นผู้เดียวที่ช่วยเราให้ค่อยๆหลุดพ้นจากบาปได้และพระองค์เท่านั้นที่จะเข้าใจเราในทุกๆการทดลองเพราะพระองค์ก็ทรงผ่านทุกการทดลองมาแล้วเหมือนเราทุกคนเช่นกัน
“เพราะเหตุนี้พระองค์จึงต้องเป็นเหมือนกับพี่น้องทุกอย่าง เพื่อจะได้เป็นมหาปุโรหิต ผู้เปี่ยมด้วยความเมตตาและความซื่อสัตย์ ในการกระทำกิจต่อพระเจ้าเพื่อลบล้างบาปของประชาชน เพราะพระองค์เองได้ทรงทนทุกข์และถูกทดลอง พระองค์จึงทรงสามารถช่วยผู้ที่ถูกทดลองได้”
ฮีบรู 2:17-18 THSV11
เอาหล่ะวันนี้เลยมี 3 วิธีที่เราจะรู้ได้ว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตอยู่กับเราหรือไม่ ไปดูกันเลยครับ
1. เราเกิดผลหรือไม่? ใช่แล้วครับการเกิดผลคือหลักฐานว่าพระองค์สถิตอยู่ในเราเพราะหากพระองค์ไม่ได้อยู่ในเรา โดยธรรมชาติแล้วเราคงไม่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเท่าไร และถึงแม้จะอยากมากเท่าไรก็คงยากที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ที่สำคัญ การที่เราจะมีความสามารถหรือของประทานฝ่ายวิญญาณเพื่อรับใช้ผู้อื่นนั้นหากปราศจากพระวิญญาณบริสุทธิ์คงยากมากๆ ที่จะทำมันได้สำเร็จครับ การเกิดผลมีทั้งภายในและภายนอก การเกิดผลภายในนั้นคือ ผลพระวิญญาณทั้ง 9 ครับ เราจะพอสังเกตุเห็นได้จากความเปลี่ยนแปลงภายในของเราว่าเรามี ความรัก มากขึ้นมั้ย? เรายินดีกับสิ่งต่างๆในชีวิตประจำวันเราง่ายขึ้นบ่อยขึ้นมั้ย? เรามีสันติสุขง่ายขึ้น บ่อยขึ้นและนานขึ้นกว่าก่อนมั้ย? เราอดทนได้ดีกว่าเดิมมากแค่ไหน? เราเมตตาได้ดีกว่าเดิมมั้ย? เราทำดีบ่อยขึ้นแค่ไหน? เราซื่อสัตย์มากขึ้นมั้ย? เราถ่อมลงกว่าเดิมแค่ไหน? และเราควบคุมตัวเองได้ดีกว่าเดิมมั้ย? นั่นคือหลักฐานว่าพระวิญญาณได้เติบโตมากแค่ไหนภายในเรา หรือ ตั้งแต่เรารับบัพติสมา ไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย ก็แปลว่า คุณแค่แวะมาเล่นน้ำกับผมก็เท่านั้นเอง ขออย่าให้ใครเป็นแบบนั้นเลยครับ
2. เรายอมจำนนต่อพระยาห์เวห์ได้มั้ย? เราเห็นและยอมรับความจริงในตัวเราที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้ดีแค่ไหน เราค่อยๆ ชนะบาปได้ดีแค่ไหน? เรายอมที่จะเลือกวิถีของยาห์เวห์ได้มั้ย? บ่อยแค่ไหน? เราแก้ปัญหาต่างๆด้วยวิธีของเราหรือวิธีของยาห์เวห์ เรารอคอยพระองค์เป็นไหม? รอได้นานแค่ไหน ทั้งหมดนี้คือตัวชี้วัดว่าเรายอมจำนนต่อพระยาห์เวห์ได้ดีแค่ไหน และแน่นอนถ้าเราไม่มีพระวิญญาณบริสุทธิ์คอยช่วยเหลือเราคงยากมากๆที่จะทำได้ ครับ
3. เราสามารถรักษาโทราห์ได้ดีแค่ไหน ? โทราห์คือพระลักษณะของพระยาห์เวห์ หากเราปฏิเสธโทราห์ก็เท่ากับเราปฏิเสธยาห์เวห์และแม้โทราห์จะเป็นมาตรฐานชีวิตที่แท้จริงซึ่งมันปกติธรรมดามากๆ แต่หากปราศจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ไม่ง่ายนักที่เราจะยืนหยัดในการรักษาโทราห์ได้นั้นเอง ใน มัทธิวบทที่ 5 ที่ยาห์ชัวกล่าวว่า ผู้ใดตัดหรือเพิ่ม หรือสอนว่าไม่ต้องมีโทราห์แล้วจะเป็นผู้เล็กน้อยที่สุดในแผ่นดินสวรรค์นั้นแท้จริงหมายความว่า การสอนให้โทราห์เบาลง หรือลดท่อนความสำคัญของโทราห์สำหรับชาวอาณาจักรสวรรค์แล้วจะเป็นสิ่งที่แย่ที่สุดที่พวกเขาจะพูดกัน เพราะแม้แต่ฟาริสีที่เชื่อในโทราห์แต่ทำไม่ได้อย่างที่พูด ก็ยังไม่เคยออกมาต่อต้านโทราห์เลย
และนั่นคือ 3 ข้อสังเกตุในชีวิตเราครับว่า หลังจากเราได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์มาแล้วพระองค์ยังคงสถิตอยู่กับเราหรือไม่ หรือว่า พระองค์ไม่เคยสถิตกับเราเลย หากใช่ นั่นก็เพราะว่าคุณไม่เคยมาถึงจุดกลับใจเลยและไม่เคยอยากเปลี่ยนแปลงใดๆ และหากคุณอยู่จุดนั้น วันนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือกลับมาเริ่มต้นกับพระองค์ครับเพราะชีวิตนิรันตร์มีคุณค่ามากกว่าชีวิตบนโลกนี้มากๆ ครับ ไม่คุ้มเลยหากจะแลกความสุขปลอมเพียงชั่วครู่กับชีวิตที่สงบสุขในนิรันดร์กาลที่ยาห์เวห์ปรารถนาจะมอบให้คุณ
ชาบัทชาโลมครับ
เอลเดอร์ โป้ง
***ในรูปคือตารางที่ในการให้เราลองให้คะแนนสำหรับพัฒนาการของผลพระวิญญาณทั้ง 9 โดยเปรียบเทียบกับปีที่แล้วและปีนี้ดูครับ เต็ม 10 คุณให้คะแนนตัวเองเท่าไร
Congregation of YHWH, Thailand ชุมชนของพระยาห์เวห์ แห่งประเทศไทย
ขออภัยในความผิดพลาด ทางเราได้ทำการแก้ไขการจัดเรียนหน้าในหนังสือ The gates of hell shall not prevail against her ให้ถูกต้องแล้ว