Menu
Ep ที่ 9 ” ปิดประตูทำไม ? “
(TH) สำหรับบทความนี้ผมจะชวนมาดูว่า อะไรเป็นสามารถที่ประยาห์เวห์ ปิดประตู กันน่ะครับ มาจะรวบรวมเอาพระคำที่พูดถึงการถูกปิดประตู หรือ เข้ามาแล้วแต่ถูกเชิญออกด้านนอก มาดูกันครับ
“ใครเป็นบ่าวที่ซื่อสัตย์และฉลาด ที่นายตั้งไว้เหนือบ่าวอื่นๆ เพื่อแจกอาหารตามเวลา เมื่อนายมาพบเขาทำอย่างนั้น บ่าวคนนั้นก็เป็นสุข เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า นายจะตั้งเขาไว้ให้ดูแลทรัพย์สิ่งของทั้งหมดของท่าน แต่ถ้าบ่าวชั่วนั้นคิดในใจของเขาว่า ‘นายของข้ามาช้า’ และเริ่มต้นโบยตีเพื่อนบ่าวและกินดื่มอยู่กับพวกขี้เมา นายของบ่าวคนนั้น จะมาในวันที่เขาไม่คิด ในชั่วโมงที่ไม่รู้ และจะลงโทษเขาอย่างหนัก และจะขับไล่ให้ไปอยู่ในที่ของพวกคนหน้าซื่อใจคด ซึ่งที่นั่นจะมีแต่การร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน”
มัทธิว 24:45-51 THSV11
ข้อแรกนี้โดยสรุปคือ คนที่ คิดว่าพระเมสิยาห์ มาช้าเลยปล่อยชีวิตไปตามโลกจนเริ่มทำบาปหนักขึ้นไปเรื่อยๆ
“เมื่อเจ้าบ่าวมาช้า ก็พากันง่วงเหงาและหลับไป เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนก็มีเสียงร้องว่า ‘เจ้าบ่าวมาแล้ว จงออกมารับท่านเถิด’ หญิงพรหมจารีทั้งหมดนั้นก็ลุกขึ้นตกแต่งตะเกียงของตน บรรดาคนโง่ก็พูดกับพวกที่มีปัญญาว่า ‘ขอแบ่งน้ำมันของพวกท่านบ้าง เพราะตะเกียงของเราจวนจะดับอยู่แล้ว’ พวกที่มีปัญญาจึงตอบว่า ‘น่ากลัวน้ำมันจะไม่พอสำหรับเราและพวกท่าน จงไปหาคนขาย แล้วซื้อสำหรับตัวเองจะดีกว่า’ ระหว่างที่เขาทั้งหลายออกไปซื้อ เจ้าบ่าวก็มาถึง พวกที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วก็ไปกับท่านในงานสมรส แล้วประตูก็ปิด ภายหลังหญิงพรหมจารีอีกห้าคนก็มาร้องว่า ‘ท่านเจ้าคะ ขอเปิดให้เราด้วย’ แต่ท่านตอบว่า ‘เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า เราไม่รู้จักท่าน’ เพราะฉะนั้น จงเฝ้าระวังอยู่ เพราะพวกท่านไม่รู้กำหนดวันหรือเวลานั้น”
มัทธิว 25:5-13 THSV11
ข้อที่ 2 นี้เกี่ยวกับหญิงพรหมจารี 5 คนโง่ 5 คนฉลาด ในข้อนี้โดยสรุปคือ คนที่ไม่เตรียมตัวเช่นกันครับ แม้รักษาชีวิตที่บริสุทธิ์ดีแล้ว แต่ไม่สามารถไปต่อในวันที่มึดมิดได้ สุดท้ายก็ถูกปิดประตูใส่ อยู่ดี
“คนที่ได้รับตะลันต์เดียวก็มาชี้แจงด้วยว่า ‘นายเจ้าข้า ข้าพเจ้ารู้อยู่ว่าท่านเป็นคนใจตระหนี่ เกี่ยวผลในที่ที่ท่านไม่ได้หว่าน รวบรวมในที่ที่ท่านไม่ได้โปรย ข้าพเจ้ากลัวจึงเอาเงินตะลันต์ของท่านไปซ่อนไว้ใต้ดิน ดูซิ นี่เงินของท่าน’ นายจึงตอบว่า ‘ไอ้บ่าวชั่วและเกียจคร้าน เจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือว่าเราเกี่ยวในที่ที่เราไม่ได้หว่าน รวบรวมในที่ที่เราไม่ได้โปรย เพราะฉะนั้นเจ้าควรเอาเงินของเราไปฝากกับนายธนาคาร เมื่อเรามาก็จะได้รับเงินทั้งดอกเบี้ยด้วย เพราะฉะนั้น จงเอาเงินตะลันต์เดียวนั้นจากเขาไปให้คนที่มีสิบตะลันต์ เพราะว่าใครที่มีอยู่แล้วจะให้แก่คนนั้นจนมีอย่างเหลือเฟือ แต่คนที่ไม่มี แม้แต่สิ่งที่มีอยู่ก็จะเอาไปจากเขา เอาไอ้บ่าวชั่วช้าไปทิ้งเสียยังที่มืดภายนอก ซึ่งที่นั่นจะมีการร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน’”
มัทธิว 25:24-30 THSV11
ข้อที่ 3 นี้ หมายถึง คนที่ไม่เกิดผล และเสียเวลามองตัวเองเป็นเหยื่ออยู่ร่ำไป หรือบ่น มองในแง่ลบเสมอๆ จนไม่เกิดผลในที่สุด เขาก็คือหนึ่งในคนที่ต้องอยู่ ภายนอก
“พระองค์ตรัสตอบว่า “ผู้หว่านเมล็ดพืชดีนั้นได้แก่บุตรมนุษย์ และนานั้นได้แก่โลก ส่วนเมล็ดพืชดีได้แก่พลเมืองแห่งแผ่นดินของพระเจ้า แต่ข้าวละมานได้แก่พลเมืองของมารร้าย ศัตรูผู้หว่านเมล็ดพืชเลวได้แก่มารนั้น ฤดูเกี่ยวได้แก่เวลาสิ้นยุค และผู้เกี่ยวทั้งหลายนั้นได้แก่ทูตสวรรค์ เพราะฉะนั้นเขาเก็บข้าวละมานเผาไฟเสียอย่างไร เมื่อเวลาสิ้นยุคก็จะเป็นอย่างนั้น บุตรมนุษย์จะใช้บรรดาทูตสวรรค์ของท่านออกไปเก็บกวาดทุกสิ่งที่ทำให้หลงผิด และพวกผู้ที่ทำชั่วไปจากแผ่นดินของท่าน และจะทิ้งลงในเตาไฟที่ลุกโพลง ที่นั่นจะมีการร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เวลานั้นบรรดาคนชอบธรรมจะส่องแสงอยู่ในแผ่นดินพระบิดาของพวกเขาดุจดวงอาทิตย์ ใครมีหูจงฟังเถิด”
มัทธิว 13:37-43 THSV11
ข้อที่ 4 คือ ผู้ที่ไม่รักษา โทราห์ น่ะครับที่เป็นข้าวละมาน
“The Son of Man will send forth his angels, and they will collect out of his Kingdom all the things that cause people to sin and all the people who are far from Torah;”
Mattityahu (Mat) 13:41 CJB
นี้คือ ผู้เชื่อ ที่ไม่รักษาชีวิตให้ตรงตามโทราห์ ครับ ที่ถูกขับไล่ออกไปอยู่ด้านนอก
“แต่เมื่อกษัตริย์องค์นั้นเสด็จไปทอดพระเนตรแขกทั้งหลาย ก็ทอดพระเนตรเห็นคนหนึ่งไม่ได้สวมเสื้อสำหรับงานอภิเษกสมรส จึงตรัสถามว่า ‘เพื่อนเอ๋ย ทำไมท่านมาที่นี่โดยไม่สวมเสื้อสำหรับงานอภิเษกสมรส?’ คนนั้นก็นิ่งอั้นอยู่พูดไม่ออก กษัตริย์จึงมีรับสั่งกับพวกคนรับใช้ว่า ‘จงมัดมือมัดเท้าคนนี้เอาไปโยนทิ้งบริเวณที่มืดข้างนอก ซึ่งเป็นที่มีการร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน’ เพราะว่าคนที่ได้รับเชิญก็มีมาก แต่คนที่ได้รับการทรงเลือกก็มีน้อย””
มัทธิว 22:11-14 THSV11
ข้อที่ 5 นี้คือ ผู้ที่ได้รับเชิญมางานเลี้ยงแต่ไม่แต่งตัวให้เหมาะสม ซึ่งนั้นหมายถึง ชีวิตเราเมื่อมาเชื่อแต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีเลย ไม่เอาบาปออก และรวมไปถึงไม่เกิดผลด้วยครับ
“พระเยซูเสด็จไปตามบ้านเมืองต่างๆ ทรงสั่งสอนระหว่างทางที่มุ่งไปสู่กรุงเยรูซาเล็ม มีคนหนึ่งมาทูลถามพระองค์ว่า “ท่านเจ้าข้า คนที่รอดนั้นมีจำนวนเล็กน้อยเท่านั้นหรือ?” พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “จงเพียรพยายามเข้าไปทางประตูที่คับแคบ เราบอกท่านทั้งหลายว่า แม้คนจำนวนมากพยายามจะเข้าไป แต่จะเข้าไม่ได้ เมื่อเจ้าของบ้านลุกขึ้นปิดประตูแล้ว และพวกท่านยืนอยู่ภายนอกเคาะที่ประตูว่า ‘นายเจ้าข้า ช่วยเปิดให้เราด้วย’ แต่เจ้าของบ้านนั้นจะตอบท่านว่า ‘เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากไหน’ แล้วท่านจะกล่าวว่า ‘เราเคยกินดื่มกับนาย และนายก็เคยสั่งสอนที่ถนนของเรา’ แต่เจ้าของบ้านนั้นจะกล่าวว่า ‘เราไม่รู้ว่าพวกเจ้าที่ทำความชั่วมาจากไหน จงไปให้พ้นหน้าเรา’ แล้วจะมีการร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันในเวลาที่พวกท่านเห็นอับราฮัม อิสอัค ยาโคบ และบรรดาผู้เผยพระวจนะในแผ่นดินของพระเจ้า แต่ตัวพวกท่านเองก็จะถูกขับไล่ออกไปอยู่ข้างนอก และจะมีคนจากทิศตะวันออก ทิศตะวันตก ทิศเหนือ ทิศใต้ มานั่งร่วมโต๊ะในแผ่นดินของพระเจ้า และแน่นอนว่า ผู้ที่เป็นคนสุดท้ายจะกลับกลายเป็นคนแรก และผู้ที่เป็นคนแรกจะกลับกลายเป็นคนสุดท้าย””
ลูกา 13:22-30 THSV11
ข้อที่ 6 นี้พูดรื่องทางแคบ นั้นแปลว่า คนที่ไม่พยายามเดินในทางของยาห์เวห์ที่ส่วนกับโลกใบนี้ ( รักษาTorah )
แม้รู้จักพระองค์ แม้เคยร่วมรับใช้ แม้เคยรับพระพรนานาประการจากพระองค์ แต่เขาไม่รักษาโทราห์ ก็จะอยู่ด้านนอกเช่นกัน
“มิใช่ทุกคนที่เรียกเราว่า ‘พระองค์เจ้าข้า, พระองค์เจ้าข้า ‘จะได้เข้าในเมืองสวรรค์, แต่ผู้ที่ปฏิบัติตามพระทัยพระบิดาของเราผู้อยู่ในสวรรค์นั้นจึงจะเข้าได้. ในวันนั้นจะมีคนเป็นอันมากร้องแก่เราว่า. ‘พระองค์เจ้าข้า, พระองค์เจ้าข้า, ข้าพเจ้าได้สั่งสอนในพระนามของพระองค์, และได้ขับผีออกด้วยพระนามของพระองค์, และได้กระทำการอัศจรรย์มากด้วยออกพระนามของพระองค์มิใช่หรือ?’ ขณะนั้นเราจะกล่าวแก่เขาว่า. ‘เราไม่รู้จักเจ้าเลย. เจ้าทั้งหลายผู้ประพฤติล่วงพระบัญญัติ จงถอยไปจากเรา.’”
มัดธาย 7:21-23 TH1940
ข้อที่ 7 ผมเลือก ฉบับ 1940 มาให้อ่านเพื่อทุกคนจะได้เห็นว่าแท้จริงควรแปลว่าอะไร ใช่แล้วครับ คนที่ถูกปฏิเสธ คือ คนที่ไม่รักษาบัญญัติ
“พระองค์ตรัสอุปมาต่อไปนี้ว่า “ชายคนหนึ่งปลูกต้นมะเดื่อต้นหนึ่งไว้ในสวนองุ่นของตน และเขามาหาผลที่ต้นนั้นแต่ไม่พบ เขาจึงพูดกับผู้ที่รักษาเถาองุ่นว่า ‘นี่แน่ะ เรามาหาผลที่ต้นมะเดื่อนี้สามปีแล้ว แต่ไม่พบ จงโค่นมันทิ้งไป จะให้ดินจืดไปเปล่าๆ ทำไม?’ แต่ผู้รักษาเถาองุ่นตอบเขาว่า ‘นายเจ้าข้า ขอเก็บเอาไว้อีกปี ลองให้ข้าพเจ้าพรวนดินใส่ปุ๋ยดู ถ้าปีหน้ามันเกิดผลก็ดีไป แต่ถ้าไม่ ท่านจะโค่นมันทิ้งก็ได้’ ””
ลูกา 13:6-9 THSV11
ข้อที่ 8 นี้ หมายถึง คนที่ไม่เกิดผล
““ท่านทั้งหลายเป็นเกลือแห่งโลก ถ้าเกลือนั้นหมดรสเค็มไปแล้ว จะทำให้กลับเค็มอีกได้อย่างไร ตั้งแต่นั้นไปก็ไม่เป็นประโยชน์อะไร มีแต่จะถูกทิ้งเสียให้คนเหยียบย่ำ”
มัทธิว 5:13 THSV11
ข้อที่ 9 นี้ ก็หมายถึง การไม่รับการทรงเรียก ไม่เกิดผลตามสิ่งที่ได้รับ ตามสิ่งที่ถูกสร้างมา
โอเค ครับโดยสรุปจาก 9 ข้อที่ผมรวบรวมมาให้อ่านในคร่าวเดียวกันนี้อาจจะไม่ครบทั้งหมดแต่สามารถทำให้เราพอสรุปได้ว่า คนแบบไหนที่เข้าข่าย การถูกปฏิเสธ ในวันนั้น กันครับ
ข้อแรกนี้โดยสรุปคือ คนที่ คิดว่าพระเมสิยาห์ มาช้าเลยปล่อยชีวิตไปตามโลกจนเริ่มทำบาปหนักขึ้นไปเรื่อยๆ
ข้อที่ 2 นี้เกี่ยวกับหญิงพรหมจารี 5 คนโง่ 5 คนฉลาด ในข้อนี้โดยสรุปคือ คนที่ไม่เตรียมตัวเช่นกันครับ แม้รักษาชีวิตที่บริสุทธิ์ดีแล้ว แต่ไม่สามารถไปต่อในวันที่มึดมิดได้ สุดท้ายก็ถูกปิดประตูใส่ อยู่ดี
ข้อที่ 3 นี้ หมายถึง คนที่ไม่เกิดผล และเสียเวลามองตัวเองเป็นเหยื่ออยู่ร่ำไป หรือบ่น มองในแง่ลบเสมอๆ จนไม่เกิดผลในที่สุด เขาก็คือหนึ่งในคนที่ต้องอยู่ ภายนอก
ข้อที่ 4 คือ ผู้ที่ไม่รักษา โทราห์ น่ะครับที่เป็นข้าวละมาน
ข้อที่ 5 นี้คือ ผู้ที่ได้รับเชิญมางานเลี้ยงแต่ไม่แต่งตัวให้เหมาะสม ซึ่งนั้นหมายถึง ชีวิตเราเมื่อมาเชื่อแต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีเลย ไม่เอาบาปออก และรวมไปถึงไม่เกิดผลด้วยครับ
ข้อที่ 6 นี้พูดรื่องทางแคบ นั้นแปลว่า คนที่ไม่พยายามเดินในทางของยาห์เวห์ที่ส่วนกับโลกใบนี้ ( รักษาTorah )
แม้รู้จักพระองค์ แม้เคยร่วมรับใช้ แม้เคยรับพระพรนานาประการจากพระองค์ แต่เขาไม่รักษาโทราห์ ก็จะอยู่ด้านนอกเช่นกัน
ข้อที่ 7 ผมเลือก ฉบับ 1940 มาให้อ่านเพื่อทุกคนจะได้เห็นว่าแท้จริงควรแปลว่าอะไร ใช่แล้วครับ คนที่ถูกปฏิเสธ คือ คนที่ไม่รักษาบัญญัติ
ข้อที่ 8 นี้ หมายถึง คนที่ไม่เกิดผล
ข้อที่ 9 นี้ ก็หมายถึง การไม่รับการทรงเรียก ไม่เกิดผลตามสิ่งที่ได้รับ ตามสิ่งที่ถูกสร้างมา
เมื่อเราดูข้อสรุปทั้ง 9 ข้อนี้แล้วเราจะ แยกเป็นห้วใหญ่ๆได้ดังนี้ครับ
1 “คนไม่เตรียมตัว” เพราะคิดว่า ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลย ยาห์ชัวไม่กลับมาในยุคของเขาหรอก เลยเริ่มต้นปล่อยชีวิตไปกับกระแสของโลก เริ่มทำบาปเล็กๆจนไปถึงบาปใหญ่ เริ่มต้นข่มเหง ผู้เชื่อกันเอง คนแบบนี้ เริ่มต้น ออกตัวล้อฟรีทุกคนครับ เอาจริงๆเอาจัง รักษาชีวิต เกิดผล คือ ทุกอย่างมาดีหมดครับ แต่แต่พอนานๆไปเริ่มแพ่ว เริ่มท้อ นั้นเพราะ เขาไม่ได้คำนึงว่า ระยะเวลาอาจจะนานกว่าที่เขาคิด และใจความหลักของการแยกตัวออกจากโลก ไม่ใช่แค่การ “รอการเสด็จกลับมา” แต่ควรเป็น “หัวใจที่ไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้” มากกว่า นั้นทำให้ ปลายทางของพวกเขา เลวร้ายกว่าคนไม่เชื่อเสียอีก
2 “คนไม่เกิดผล” คนกลุ่มนี้ เสียเวลามองตัวเองเป็นเหยื่อ มองตัวเองเป็นผู้เสียหายตลอดเวลา แทนที่เขาจะเห็นว่า เขาได้รับอะไรมาจากพระยาห์เวห์ และกำลังจะได้รับอะไรในปลายทางที่เส้นชัยของเขา ส่งผลให้เขาไม่ลึกขึ้นเกิดผล ไม่ช่วยใคร ไม่พัฒนาตัวเอง ไม่มีส่วนในการรับใช้ ใดๆ แต่อยู่ชุมชน อยู่ในความเชื่อน่ะครับ รักษาชีวิต ดูแลชีวิตตัวเองไป แต่ไม่มองออกจากวงกลมรอบตัวเองเลยสักที นั้นทำให้ปลายทางเขาก็ไม่ต่างจากคนไม่เชื่อเช่นกัน
3 ผู้เชื่อ “ที่ไม่รักษาโทราห์ ” ในโลกใบนี้มีผู้เชื่อมากมายเลยครับที่ถูกสอนว่า ไม่ต้องรักษาบัญญัติ หรือ โทราห์ แล้ว และยังมีอีกมากมายที่เชื่อว่า เขาสามารถทำบาปต่อไปได้ แค่สารภาพบาปออกมาก็พอ เพราะพระเจ้ามีพระคุณเหลือล้นให้เขา นี้คือ กับดักที่น่ากลัวที่สุดครับ เราจะเห็นว่าตลอดพระคัมภีร์ใบเบิ้ลทั้งเล่มพูดเรื่องการ เอาชนะบาป การเลิกบาป ดังนั้นจะเป็นไปได้อย่างไร ถ้าเราไม่ต้องรักษาชีวิตให้บริสุทธิ์และ จะสามารถเข้าแผ่นดินสวรรค์ ได้ด้วยการยกมือยอมรับ พระเมสิยาห์ เท่านั้น
เอาหล่ะครับ เป็นไงบ้างครับ เมื่อเราสรุป คำเตือนของการถูกปฏิเสธ จาก ยาห์เวห์ เราจะเห็นว่า เราก็อาจเข้าข่ายไม่ข้อใดก็ข้อหนึ่งน่ะครับ ผมไม่ได้เขียนมาเพื่อจะขู่ หรือ ทำให้เสียกำลังใจ แต่เพียงอยากให้เราเข้าใจให้ตรงกันและช่วยกันเสริมสร้างกันในทางที่จะปลอดภัยจริงๆกับจิตวิญญาณของเราทุกคนครับ
ชาโลม
เอลเดอร์ โป้ง
EP9 ” Why close the door? “
(EN) In this article, I will invite you to take a look at what can cause Yahweh to close the door. I will gather verses that talk about being shut out or being invited out after coming in. Let’s take a look.
Matthew 24:45-51
Who then is the faithful and wise servant whom his Master has set over His household, to give to them the food in season? Blessed is that servant whom his Master shall find so doing when He comes. Truly I say to you, He will set him over all He owns. But if that wicked slave says in his heart, My Master delays to come, and begins to beat his fellow
servants, and to eat and to drink with the ones drinking, The master of that slave will come in a day in which he does not expect and in an hour which he does not know, and will cut him in two, and will appoint his portion with the hypocrites. There will be weeping and gnashing of the teeth.
This first point summarizes that people who believe that Messiah is delayed have let their lives flow with the world, increasingly committing grave sins.
Matthew 25:5-13
But the bridegroom delaying all nodded and slept. And at midnight, a cry occurred, Behold, the bridegroom comes! Go out to meet him. Then all those virgins were aroused and prepared their lamps. And the foolish said to the wise, Give us some of your oil, for our lamps are gone out. But the wise answered, saying, No, lest there not be enough for us and you. But rather, go to those who sell and buy for yourselves. But they going away to buy, the bridegroom came. And those ready went in with him to the wedding feast, and the door was shut. And afterwards, the rest of the virgins also came, saying, Master, Master, open to us. But answering, he said, Truly I say to you, I do not know you. Therefore, be alert, for you do not know the day nor the hour in which the Son of Man comes.
This second point is about 5 foolish virgins and 5 wise ones. In summary, this point is about those who are unprepared. Even if they maintain a pure life, they cannot move forward on a dark day, and in the end, the door will be shut on them regardless.
Matthew 25:24-30
And the one who received the one talent also coming up, he said, Master, I knew you, that you are a hard man, reaping where you did not sow, and gathering where you did not scatter; and being afraid, going away, I hid your talent in the earth. Behold, you have yours. And answering, his Master said to him, Evil and lazy slave! You knew that I reap where I did not sow, and I gather where I did not scatter. Then you ought to have put my silver to the bankers, and coming I would have received my own with interest. Therefore, take the talent from him and give it to him who has the ten talents. For to each who has, more will be given, and he will abound. But from him who does not have, even that which he has will be taken from him. And throw the worthless slave out into the outer darkness. There will be weeping and gnashing of the teeth.
This third point refers to people who do not bear fruit and waste time seeing themselves as perpetual victims or complaining, always looking at the negative side to the point that they cannot bear fruit. They are among those who must exist outside.
Matthew 13:37-43
And answering, He said to them, The One sowing the good seed is the Son of Man. And the field is the world; and the good seed, these are the sons of the kingdom; but the tares are the sons of the evil one. And the enemy who sowed them is the Devil, and the harvest is the end of the age, and the cherubs are the reapers. Then as the tares are gathered and are consumed in the fire, so it will be in the completion of this age. The Son of Man will send forth His cherubs, and they will gather out of His kingdom all stumbling blocks, and those who practice lawlessness. And they will throw them into the furnace of fire; there will be weeping and gnashing of the teeth. Then the righteous will shine out like the sun in the kingdom of their Father. The one having ears to hear, let him hear.
The fourth point refers to those who do not keep Torah, you see, they are the ones who are the tares.
“The Son of Man will send forth his angels, and they will collect out of his Kingdom all the things that cause people to sin and all the people who are far from Torah;” Mattityahu (Mat) 13:41 CJB
These are the believers who do not keep their lives in accordance with Torah, who have been cast out to the outside.
Matthew 22:11-14
And the king coming in to look over those reclining, he saw a man there not having been dressed in a wedding garment. And he said to him, Friend, how did you come in here, not having a wedding garment? But he was speechless. Then the king said to the servants, Binding his feet and hands, take him away and throw him out into the outerdarkness. There shall be weeping and gnashing of the teeth. For many are called, but few chosen.
This fifth point refers to someone who was invited to a wedding but did not dress appropriately, which means our lives when we believe but do not change for the better at all, do not remove sins, and also do not bear any fruit.
Luke 13:22-30
And He would travel in the villages and cities while teaching. And He went to Jerusalem. And a man asked Him, Master, are the ones being saved few? But Yahshua said to them, Labor to enter in through the narrow gate, for I say to you that many will seek to enter in and will not have strength. From the hour that the Master of the house rises and secures the door, then they will stand outside and knock on the door and begin to say, Our Master! Our Master! Open to us! And He will answer and He will say, I say to you that I do not know you from where you are. Then you will begin to say, We ate and drank in Your presence, and You taught in our streets. And He will say, I tell you I do not know you, from where you are. “Depart from Me all workers of falsehood!” There will be weeping and gnashing of the teeth when you seeAbraham and Isaac and Jacob and all the prophets in the kingdom of Elohim, but yourselves being thrust outside. And they will come from east and west, and from north and south, and will recline in the kingdom of YAHWEH. And, behold, there are last ones who will be first, and there are first ones who will be last.
Point 6 talks about the narrow way, meaning that those who do not strive to walk in the way of Yahweh that is separate from this world (keeping Torah) – even if they know Him, even if they have served alongside Him, even if they have received various blessings from Him – if they do not keep Torah, they will also be outside.
Matthew 7:21-23
It will not be that just everyone who says to Me, Master, Master, will enter into the kingdom of Heaven, but the ones who do the will of My Father in Heaven. Many will say to Me in that day, Master, Master, did we not prophesy in Your name, and in Your name cast out demons, and in Your name do many works of power? And then I will declare to them, from everlasting, I never knew you; “depart from Me, those working lawlessness!”
Point 7: I chose Thai Bible the 1940 edition for everyone to read so that you can see what it should actually be translated as. That’s right, the person who is denied is the one who does not keep the commandments.
Luke 13:6-9
And He spoke this parable: A man had planted a fig tree in his vineyard. And he came looking for fruit on it and did not find any. And he said to the workers, Behold, three years I come looking for fruit on this fig tree, and found none. Cut it down, and why should the ground be wasted? And a worker said to him, master, leave it also this year until I shall dig around it and throw manure; Maybe it will produce fruit, and if not, next year you may cut it down.
Point 8 refers to a person who does not bear fruit.
Matthew 5:13
You are the salt of the earth, but if the salt becomes tasteless, with what shall it be salted? For it has strength for nothing any more but to be thrown out and to be trampled under by men.
Point 9 refers to the refusal of calling, which does not bear any fruit of what has been received according to what has been created.
To summarize the 9 points I have gathered for a brief reading, it may not cover everything but it allows us to conclude what kind of people fall under the category of being rejected on that day.
The first point summarizes that it is for those who think that Messiah is coming late, thus allowing their lives to flow with the world until they start to sin more and more heavily.
The second point relates to the five foolish virgins and the five wise ones. This point summarizes that it is for those who are not prepared as well. Even though they maintain a pure life, they cannot proceed in the dark days and ultimately end up getting the door shut on them anyway.
Point 3 refers to someone who does not bear fruit and wastes time seeing themselves as a victim always complaining, viewing things negatively to the point that in the end they achieve nothing. They are one of those who must remain outside.
Point 4 is about those who do not keep Torah, which is the tares.
Point 5 refers to those who are invited to a wedding but do not dress appropriately, which means our lives when we come to believe but do not change for the better at all, do not remove sin, and as a result do not bear any fruits either.
Point 6 talks about the narrow way, which means that those who do not try to walk in the ways of Yahweh, separate from this world (keeping Torah), even knowing Him, having served with Him, and having received various blessings from Him, will also be on the outside if they do not keep Torah.
Point 7: I chose Thai Bible the version from 1940 for everyone to read so that they can see what it really should be translated as. That’s right, the person who is denied is the one who does not keep the commandments.
Point 8 means the person who does not bear fruit.
Point 9 also refers to the refusal to respond to the calling, which does not bear ftuit according to what is received, according to what has been created.
When we look at these 9 conclusions, we can categorize them into major headings as follows.
1 “The unprepared person” thinks that nothing is happening at all, that Yahshua won’t return in his time, so they start to let their life flow with the currents of the world. They begin to commit small sins until they escalate to larger ones, starting to oppress fellow believers. People like this begin to take their lives for granted. To be serious about preserving life leads to a good outcome; everything goes well. However, over time, they start to lose patience and become discouraged because they do not consider that the duration may be longer than they expect. The main point of separating oneself from the world is not just to “wait for the return” but rather to have “a heart that does not want to be part of this world”. This ultimately leads them to a destination that is worse than that of non-believers.
2 “Unfruitful people” This group of people waste time seeing themselves as victims, constantly viewing themselves as the harmed party. Instead of realizing what they have received from Yahweh and what they are about to receive at the finish line of their journey, they end up not being fruitful, not helping anyone, not developing themselves, and having no part in serving at all. They remain within the community, in their faith, living their lives and taking care of themselves, but never looking outside the circle around them. This results in their end being no different from that of non-believers.
3 Believers “Who Do Not Keep Torah” In this world, there are many believers who have been taught that they do not need to keep the commandments or Torah, and there are many who believe that they can continue to sin as long as they confess their sins, because Yahweh has abundant grace for them. This is the most terrifying trap. We can see that throughout the entire Bible, it speaks about overcoming sin and ceasing to sin.
So how is it possible that we do not need to keep our lives pure to enter the Kingdom of Heaven just by raising our hands to accept Messiah?
Alright then, how is it going? When we summarize the warning of being rejected by Yahweh, we will see that we might fall into one category or another. I am not writing this to threaten or discourage anyone, but simply to ensure we understand each other and help support each other in a way that is truly safe for the spirits of all of us.
Shalom
Elder Pong
Congregation of YHWH, Thailand ชุมชนของพระยาห์เวห์ แห่งประเทศไทย
