Torah Today EP 01, 2025

Torah Today  ตอน  “ Torah to me “

(TH) สวัสดีครับพี่น้องทุกคน วันนี้ผมเริ่มต้นวันใหม่ด้วย บทความในซีรีส์ใหม่น่ะครับ ในชื่อว่า “Torah Today” บทความในซีรีส์นี้จะเป็นการนำเอาโทราห์มาแบ่งปันและขยายเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นและสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ และเพื่อจะหนุนใจหลายๆคนให้มีชีวิตที่อยู่ในการอวยพร การปกป้อง จาก พระยาห์เวห์กันน่ะครับ 

       วันนี้จะชื่อตอนว่า “ Torah to me “ ครับ เอาหล่ะ ก่อนอื่นก็ขอเคลียร์ความเข้าในกันอีกสักรอบก่อนว่า สรุปแล้วเรายังคงต้องรักษาโทราห์ หรือ ธรรมบัญญัติหรือไม่ ? เผื่อบางคนเพิ่งเข้ามาอ่านก็จะได้คุยกันให้หายสงสัยกันเป็นอันดับแรก

       โทราห์ คืออะไร ?  โทราห์ หรือ ธรรมบัญญัติ คือ กฏระเบียบต่างๆ เกณท์การตัดสินในข้อพิพาทต่างๆ ที่พระยาห์เวห์ประทานแก่ชาวอิสราเอลและผู้เชื่อในพันธสัญญาของอับบราฮัม ทุกคน

       อันประกอบไปด้วย

ข้อห้ามต่างๆ เช่น อาหารที่ห้ามทาน สังคมที่ไม่สมควรไปข้องแวะด้วย ไลฟ์สไตล์ ที่ไม่ควรทำ การกระทำที่ต้องห้ามในบรรดาหมู่ผู้เชื่อในพันธสัญญาของพระยาห์เวห์

ข้อกำหนดต่างๆ เช่น  ข้อกำหนดเกี่ยวกับเทศกาลของพระยาห์เวห์ เกี่ยวกับการแต่งกาย เกี่ยวกับการเสียภาษี(สิบลด) เกี่ยวกับการถวายสัตว์บูชาในกรณีต่างๆ เกี่ยวกับพิธีต่างๆ ในการนมัสการพระยาห์เวห์

เกณท์การตัดสินต่างๆ เช่น การตัดสินกรณีมีข้อพิพาทรระหว่างกัน เกณท์ในการ เป็นหนี้ ยกหนี้ เกณท์ในการตีดสินเกี่ยวกับการกระทำผิดต่างๆ

       ก็จะมีสามข้อใหญ่ๆ ประมาณนี้น่ะครับ ซึ่งนี้จะทำให้เราเริ่มเข้าใจว่า โทราห์เป็นสิ่งจำเป็นมากๆในชีวิตเรา กล่าวคือ มนุษย์เราอยู่ด้วยกันสังคมกันจำเป็นต้องมี 3 สิ่งนี้จริงๆ ปฏิเสธไม่ได้เพราะหากปราศจาก 3 สิ่งนี้ จะเกิดความวุ่นวายเกิดขึ้น และสุดท้ายก็จำเป็นต้องอาศัยหลักยุติธรรมมาใช้ในการตัดสินข้อขัดแย้งในที่สุด และใช่แล้วครับ โทราห์ คือสิ่งนั้น จะเรียกให้ง่ายเข้าก็ ”กฏหมาย“ นั้น เอง ในทุกประเทศทั่วโลก ต่างก็ร่างกฏหมายบนพื้นฐานของโทราห์กันทั้งนั้นแค่แตกต่างกันไปตามความต้องการและสภาพสังคมในแต่ล่ะประเทศเท่านั้นเอง เช่น

       กฏหมายห้ามฆ่าคน นี้ทั่วโลกใช้หลักเดียวกันแน่นอนครับ ต่างกันที่ บทลงโทษ ซึ่งนี้เป็นตัวอย่างว่า กฏหมายทั่วทั้งโลกร่างจากโทราห์ เพราะแน่นอน โทราห์ เกิดขึ้นก่อนจะมีประเทศต่างๆ แน่ๆ ก่อนจะมีการตั้งเป็นรัฐเป็นประเทศแน่นอน ครับ

       ดังนั้นโทราห์จึงเป็นหลักจริยธรรมพื้นฐานที่ถูกอ้างว่า พระยาห์เวห์ พระผู้สร้างเป็นผู้บัญญัติขึ้นมาเพื่อจะให้มนุษย์ สามารถมีชีวิตร่วมกับ เอโลฮีม คือ พระยาห์เวห์ได้ ดังนั้น การใช้ชีวิตตามโทราห์ก็จะนำพรมาให้แกผู้ที่ดำเนินตามทางของโทราห์ และในทางกลับกันก็จะนำโทษและคำสาปแช่งมาสู่ผู้ฝ่าฝืนนั้นเอง ไม่ต่างอะไรกับการรักษากฏหมายของประเทศนั้นๆ  หรือ กฏขององค์กรต่างๆ ที่มนุษย์ต่างเข้าใจและยอมรับกันได้อยู่แล้ว

       มาถึงตรงนี้ให้เราลองคบคิดดูสักหน่อยว่า ความเชื่อ ที่บอกว่า ”เราไม่ต้องรักษาโทราห์แล้ว“ จะเป็นไปได้หรือไม่ ?  หากคุณไม่หลอกตัวเองคุณก็จะสามารถตอบได้ทันทีว่า ”เป็นไปไม่ได้“ ไม่มีทางที่โทราห์จะถูกยกเลิก เพราะโทราห์ คือ กฏระเบียบพื้นฐานของมนุษย์ การที่ใครสักคนเชื่อว่า โทราห์สิ้นสุดแล้ว จบลงแล้วเขากำลังบอกว่า ” เอาหล่ะ ต่อไปนี้การฆ่าคนเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ เพราะพระเยซูมาเพื่อไถ่ฉันแล้ว ต่อไปนี้การขโมยแล้วถูกจับได้จะเป็นแค่การกล่าวคำสารภาพแล้วฉันก็พ้นผิด ฉันสามารถผิดประเวณีได้ ฉันสามารถขมขื่นใครก็ได้ ฉันสามารถใส่ร้ายใครก็ได้ และดูเหมือนมีอีกหลายอย่างเลยที่ฉันจะสามารถทำได้ ว้าวแท้จริงแล้วฉันสามารถทำอะไรก็ได้ นี้สิ อิสระภาพแห่งโลกยุคใหม่ นี้แหละเสรีที่พระเยซูมอบให้ฉัน ขอบคุณพระเจ้า  แต่เอะ! ถ้ามีใครมาขโมยของฉันไปอันนี้ฉันไม่ยอมน่ะ และถ้ามีใครมาใส่ร้ายฉัน ฉันจะไปหาพระเจ้าและขอให้พระองค์จัดการมันให้สาสม ถ้ามีใครเป็นชู้กับสามีหรือภรรยาฉัน มันต้องถูกลงโทษและถูกประนามให้ออกไปจากสังคมเรา  และฉันเชื่อมั่นว่า พนะเจ้าเป็นความยุติธรรม พระองค์จะปกป้องฉัน จากการร้ายทั้งสิ้น “   ยาวหน่อยน่ะครับ อ่านแล้วรู้สึกอย่างไรครับ แปลกๆ และคุ้นๆ มั้ยครับ ใช่แล้ว ความคิดแบบนี้อยู่ในเราทุกคนมาก่อนและอาจจะยังคิดอยู่ด้วยซ้ำ และเราก็รู้ดีว่า แนวคิดแบบนี้จะทำให้สังคมวุ่นวายมากๆ ใครก็ตามที่คิดแบบนี้คือคนที่เห็นแก่ตัวที่สุด เพราะตัวเองทำได้ทุกอย่าง แต่พอคยอื่นไม่สามารถทำอะไรได้เลย พอตัวเองทำผิด ตัวเองสามารถได้รับการอภัย แต่พอคนอื่นทำผิดต่อตัวเอง คนนั้นจะต้องได้รับโทษจนถึงที่สุด นี้คือแนวคิดที่วินาศสันตะโรมากๆครับ และนี้คือ แนวคิดตามหลักข้อเชื่อ ของศาสนาคริสต์คริสครับแต่ไม่ใช่ตามหลักของพระคัมภีร์ไบเบิ้ล  แม้จะไม่ได้สอนตรงๆแบบนี้แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณบอกว่า ”โทราห์ยกเลิกแล้ว นี้เป็นยุคพระคุณเราได้รับการอภัยหมดแล้ว “ นั้นคือแนวคิดด้านบนนั้นเอง ในสายตาคนไม่เชื่อจึงมองว่าศาสนาคริสต์ เป็นคำสอนที่เห็นแกตัวที่สุดเพราะ ทำผิดอะไรก็มาสารภาพบาปเอา ทุกอย่างก็จบ เนี้ยแหละครับ จนปัจจุบันบานปลายมาถึง ความเชื่อ เกี่ยวกับเพศสภาพ ที่สุดท้ายถกเถียงกันไม่จบ เพราะ อีกฝ่าย ยกหลักข้อเชื่อว่า “ ธรรมบัญญัติถูกยกเลิกแล้ว ” เนี้ยแหละครับพูดไม่ออกกันไปตามๆกัน เพราะสิ่งที่แนวคิดใหม่ที่เชื่อว่า สามาาถใช้ชีวิตในเพศทางเลือกได้ไม่ผิดต่อหลักของพระคัมภีร์ นั้นมีที่มาจากหลักข้อเชื่อที่ว่า “โทราห์สิ้นสุดลงไปแล้วนั้นเอง และสิ่งที่บรรดาอาจารย์ ลุกขึ้นโต้แย้ง นั้นก็เพราะ อาจารย์ทราบดีว่า สิ่งนี้ขัดต่อหลักพื้นฐานมนุษย์ที่พระยาห์เวห์สร้างนั้นเอง และใช่แล้วครับ  สิ่งนี้คือ โทราห์

       มาดูกันว่ายาห์ชัวหรือพระเยซู พระองค์ทรงมาเพื่อยกเลิก หรือ มาเพื่อทำให้สมบูรณ์กันแน่ ?

“อย่าคิดว่าเรามาล้มเลิกธรรมบัญญัติและคำของบรรดาผู้เผยพระวจนะ เราไม่ได้มาล้มเลิก แต่มาทำให้สมบูรณ์ทุกประการ เพราะเราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า จนกว่าฟ้าและดินจะล่วงไป แม้อักษรที่เล็กที่สุด หรือขีด ขีดหนึ่ง ก็จะไม่มีวันสูญไปจากธรรมบัญญัติ จนกว่าทุกสิ่งจะเกิดขึ้น เพราะฉะนั้น ใครทำให้ข้อเล็กน้อยเพียงข้อหนึ่งในพระบัญญัตินี้ มีความสำคัญน้อยลง และสอนคนอื่นให้ทำอย่างนั้นด้วย คนนั้นจะได้ชื่อว่าเป็นผู้เล็กน้อยที่สุดในแผ่นดินสวรรค์ แต่ใครที่ประพฤติและสอนตามธรรมบัญญัติ คนนั้นจะได้ชื่อว่าเป็นใหญ่ในแผ่นดินสวรรค์ เพราะเราบอกพวกท่านว่า ถ้าความชอบธรรมของท่านไม่มากกว่าความชอบธรรมของพวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสี พวกท่านจะไม่มีวันได้เข้าสู่แผ่นดินสวรรค์”
มัทธิว 5:17-20 THSV11

       ชัดเจนมากๆอยู่แล้ว ยาห์ชัว ออกตัวก่อนเลยว่า พระองค์ไม่มีแนวคิดเรื่องการล้มเลิกโทราห์ และใครก็ตามพูดแบบนี้ เขาจะเป็นคนที่ต่ำต้อบที่สุดในอาณาจักรสวรรค์ ซึ่งจริงๆแล้วในการแปลจากรากศัพท์ และเรียงประโยคตามความเข้าใจแบบ ฮีบรู จะต้องพูดว่า “ การบอกว่าโทราห์สิ้นสุดแล้ว หรือการตัดบางอย่างออกไผ เพิ่มบางอย่างเข้ามานั้น จะเป็นเรื่องสุดท้ายที่คนในอาณาจักรสวรรค์จะพูดกันซึ่งหมายถึง จะไม่มีทางเกิดขึ้นเลยก็ว่าได้นั้นเองครับ 

       ดังนั้นหากเรามองดูดีๆ ใช้หลักพื้นฐานของมนุษย์ เราจะเข้าใจได้จริงๆว่า โทราห์ไม่สามารถยกเลิกได้เลย

       เพราะถ้าเรายกเลิกก็ต้องยกเลิกทั้งหมด จะมายกเลิกบางข้อเนี้ย ถ้าพระยาห์เวห์ต้องการแบบนั้น พระองค์ก็จำเป็นต้องมีแถลงการมาอย่างชัดเจนและค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่มากๆอยู่ ซึ่งถ้าใครเคยอ่านพระคัมภีร์จบทั้งเล่ม จะแน่ใจว่า ไม่มีเรื่องแบบนี้อยู่เลย

       แล้วยาห์ชัว หรือพระเยซู ที่คนไทยรู้จักในชื่อนี้ นั้นพระองค์ มาทำอะไร เกี่ยวกับโทราห์ ?  ถ้าเราอ่านดูพระองค์บอกแล้วว่า “ พระองค์ไม่ได้มาล้มเลิกแต่มาทำให้สมบูรณ์ ” ใช่แล้วครับ ยาห์ชัวมาทำให้โทราห์สมบูรณ์ ทำให้สมบูรณ์ นั้นแน่นอนจะไม่ใช้การเปลี่ยนแปลงหรือทำให้เบาลง เราพูดเรื่องนี้ไว้ในบทความเกี่ยวความเชื่อไว้แล้วสามาาถไปอ่านได้เพิ่มเติมครับ ในซีรีส์ที่ชื่อว่า “The Faith”  ในนี้มีการอธิบายถึงสิ่งที่เปาโลพยายามบอกว่าหน้าที่ของโทราห์คืออะไร แต่คนเข้าในผิดว่า เปาโล สอนว่าโทราห์ยกเลิกไปแล้ว ให้ลองเข้าไปอ่านดูสำหรัยคนที่ยังไม่ได้อ่านหรือยังไม่เข้าใจน่ะครับ

       แล้วยาห์ชัวมาเพิ่ออะไรถ้าไม่ได้มาเพื่อไถ่เราจากโทราห์ พระองค์มาเพื่อชดใช้ความผิดให้เราในข้อหาต่างๆที่เราทำผิดไป แต่พระองค์ไม่ได้หมายความว่า เราจะทำผิดต่อไปได้อีก แต่พระองค์ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะพลาดทำผิดไม่ได้ แต่พระองค์จะค่อยๆช่วยเราให้เลิกบาปได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่เราต้อง กลับใจ คือ อยากเลิกบาปก่อน และร่วมมือกับพระองค์ พระคุณจึงจะเกิดขึ้นกับคนคนนั้น ที่ “กลับใจ” การกลับใจเท่านั้นจึงเป็นประตูบานแรกที่จะนำเราเข้าสู่แผ่นดิรสวรรค์ นั้นคือ สิ่งที่ยาห์ชัวทรงเสด็จมาเพื่อปลดปล่อยเราจากการบาป เพื่อนำไปสู่เสรีภาพที่แท้จริง คือ การเป็นอิสระต่อบาป ซึ่งหมายถึง การที่เราจะเลิกบาปได้ในที่สุดนั้นเองครับ

“เพราะถ้าเรายังจงใจทำบาปอยู่เรื่อยๆ หลังจากได้รับความรู้เรื่องความจริงแล้ว ก็จะไม่มีเครื่องบูชาลบบาปเหลืออยู่เลย แต่จะมีความหวาดกลัวในการรอคอยการพิพากษาและไฟอันร้ายแรง ซึ่งจะเผาผลาญบรรดาศัตรู ส่วนคนที่ละเมิดธรรมบัญญัติของโมเสสนั้น ถ้ามีพยานสักสองหรือสามปาก ก็จะต้องตายโดยปราศจากความปรานี แล้วพวกท่านคิดดูซิว่าคนที่เหยียบย่ำพระบุตรของพระเจ้า และถือว่าพระโลหิตแห่งพันธสัญญา ซึ่งชำระเขาให้บริสุทธิ์นั้นเป็นมลทิน และดูหมิ่นพระวิญญาณแห่งพระคุณ สมควรจะถูกลงโทษหนักกว่าสักเท่าใด”
ฮีบรู 10:26-29 THSV11

       และเปโตร ยัง กล่าวในจดหมานฝากไว้อีกดังนี้ว่า

“ผู้สอนเท็จเหล่านี้เป็นบ่อที่ไร้น้ำ เป็นหมอกที่ถูกพายุพัดไป พระองค์ทรงเตรียมที่มืดมิดสำหรับคนเหล่านั้นแล้ว เพราะว่าพวกเขาพูดโอ้อวดอย่างเลื่อนลอย และใช้กิเลสตัณหาของเนื้อหนัง ดักจับคนทั้งหลายที่กำลังหนีไปจากพวกที่ดำเนินชีวิตในความหลงผิด พวกเขาสัญญาว่าจะให้เสรีภาพกับคนเหล่านั้น แต่ตัวเองยังเป็นทาสของความเสื่อมทราม เพราะว่าผู้ใดพ่ายแพ้แก่สิ่งใด เขาก็เป็นทาสของสิ่งนั้น เพราะว่าถ้าหลังจากพวกเขาหลีกหนีจากมลทินทั้งหลายของโลกแล้ว โดยการรู้จักยาห์ชัวพระเมสิยาห์องค์พระผู้เป็นเจ้าและผู้ช่วยให้รอดของเรา แต่พวกเขากลับเกี่ยวข้องและพ่ายแพ้แก่มลทินชั่วเหล่านั้นอีก บั้นปลายของพวกเขาก็กลับเลวร้ายยิ่งกว่าตอนต้น เพราะว่าถ้าพวกเขาไม่ได้รู้จักทางชอบธรรมนั้นเสียเลย ก็ยังจะดีกว่าที่พวกเขาได้รู้แล้ว แต่กลับหันหลังให้วิสุทธิบัญญัติที่ทรงมอบแก่พวกเขานั้น สิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาก็เป็นไปตามสุภาษิตซึ่งเป็นความจริงที่ว่า “สุนัขเลียกิน สิ่งที่มันสำรอกออกมา” และ “สุกรที่คนล้างมันให้สะอาดแล้ว กลับลุยลงไปนอนในโคลนอีก””
2 เปโตร 2:17-22 THSV11

       นั้นคือเหตุผลที่เราจะมาขยายโทราห์เพื่อจะทำให้สิ่งที่ยาห์ชัวต้องการสำเร็จในประเทศไทยกันครับ เพราะพระองค์ต้องการให้โทราห์นั้นสมบูรณ์ สักที ในแต่ล่ะวันเราจึงจะนำเอาโทราห์มาพิจารณากันครับว่า อะไรคือ ความสมบูรณ์ในแต่ล่ะ ข้อกำหนด ที่ถูกบันทึกไว้ในโทราห์ สำหรับ ตอนแรกนี้แม้จะเป็นคล้ายบทนำแต่ผมก็มีข้อพระคำดีๆเพื่อหนุนใจทุกคนสำหรับวันนี้กันครับ

“โมเสสเรียกบรรดาคนอิสราเอลมาและกล่าวแก่เขาว่า “ท่านทั้งหลายได้เห็นทุกสิ่งกับนัยน์ตาของท่าน ซึ่งพระยาห์เวห์ทรงทำในแผ่นดินอียิปต์ ต่อฟาโรห์และต่อข้าราชบริพารของท่านและต่อประเทศของท่านทั้งสิ้น ทั้งการทดลองใหญ่ซึ่งนัยน์ตาของท่านได้เห็น ทั้งหมายสำคัญและการอัศจรรย์ยิ่งใหญ่เหล่านั้น แต่จนถึงวันนี้พระยาห์เวห์ไม่ได้ประทานจิตใจที่เข้าใจ ตาที่มองเห็น และหูที่ได้ยินให้แก่ท่าน ‘เราได้นำพวกเจ้าอยู่ในถิ่นทุรกันดารสี่สิบปี เสื้อผ้าของเจ้าไม่ได้ขาดวิ่นไปจากเจ้า และรองเท้าไม่ได้ขาดหลุดไปจากเท้าของเจ้า เจ้าทั้งหลายไม่ได้รับประทานขนมปัง เจ้าไม่ได้ดื่มเหล้าองุ่นหรือสุรา เพื่อเจ้าจะได้รู้ว่าเราเป็นพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า’ และเมื่อท่านมาถึงที่นี้ สิโหนกษัตริย์แห่งเฮชโบน และโอกกษัตริย์แห่งบาชานออกมาทำสงครามกับพวกเรา แต่เราก็ได้ทำให้เขาพ่ายแพ้ไป เราริบแผ่นดินของเขาและมอบให้เป็นมรดกแก่คนเผ่ารูเบน คนเผ่ากาด และคนครึ่งเผ่ามนัสเสห์ เพราะฉะนั้นจงระวังที่จะทำตามถ้อยคำแห่งพันธสัญญานี้ เพื่อท่านทั้งหลายจะจำเริญในบรรดากิจการซึ่งท่านทำ “ในวันนี้ท่านทั้งหลายทุกคนยืนอยู่เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน คือบรรดาหัวหน้าเผ่า พวกผู้ใหญ่ของท่าน เจ้าหน้าที่ของท่าน และบรรดาผู้ชายของอิสราเอล เด็กๆ ของท่าน ภรรยาของท่าน และคนต่างด้าวที่อยู่ในค่ายของท่าน ทั้งคนที่ตัดฟืนให้ท่าน และคนที่ตักน้ำให้ท่าน เพื่อท่านจะได้เข้ามาในพันธสัญญาแห่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน คือในคำปฏิญาณของพระองค์ ซึ่งพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านทรงทำกับท่านในวันนี้ เพื่อพระองค์จะทรงแต่งตั้งท่านทั้งหลายในวันนี้ให้เป็นประชากรของพระองค์ และเพื่อพระองค์จะเป็นพระเจ้าของท่าน ดังที่พระองค์ทรงสัญญากับท่านนั้น และดังที่พระองค์ทรงปฏิญาณกับบรรพบุรุษของท่าน คือกับอับราฮัม กับอิสอัคและกับยาโคบ ข้าพเจ้าไม่ได้ทำพันธสัญญาและคำปฏิญาณนี้กับท่านเท่านั้น แต่กับผู้ที่ยืนอยู่กับเราทั้งหลายที่นี่ในวันนี้เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา และกับผู้ที่ไม่ได้อยู่ที่นี่กับเราในวันนี้ “ท่านทราบอยู่แล้วว่าเราอาศัยอยู่ในแผ่นดินอียิปต์อย่างไร และเราได้ผ่านท่ามกลางประชาชาติซึ่งพวกท่านผ่านพ้นอย่างไร ท่านได้เห็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนของพวกเขาแล้ว คือเห็นรูปเคารพที่ทำด้วยไม้ ด้วยหิน และด้วยเงินและทอง ซึ่งอยู่ท่ามกลางเขา จงระวังให้ดี เกรงว่าจะมีชายหรือหญิงคนใด หรือตระกูลใด หรือเผ่าใด ซึ่งจิตใจของเขาหันจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราในวันนี้ ไปปรนนิบัติบรรดาพระของประชาชาติเหล่านั้น เกรงว่าท่ามกลางท่านจะมีรากซึ่งเกิดเป็นพืชที่เป็นพิษและบอระเพ็ด และเมื่อคนนั้นได้ยินถ้อยคำของคำปฏิญาณนี้ จะนึกอวยพรตัวเองในใจว่า ‘แม้ข้าจะเดินด้วยความดื้อดึงตามใจของข้า ข้าก็จะเป็นสุข’ ความคิดเช่นนี้ก็นำการกวาดทำลายทั้งผลที่ลุ่มและที่แล้ง พระยาห์เวห์จะไม่ทรงให้อภัยแก่คนนั้น แต่พระพิโรธของพระยาห์เวห์และความหวงแหนของพระองค์จะทรงพลุ่งขึ้นต่อชายคนนั้น และคำสาปแช่งซึ่งเขียนไว้ในหนังสือแห่งธรรมบัญญัตินี้จะตกเหนือเขา และพระยาห์เวห์จะทรงลบชื่อของเขาเสียจากใต้ฟ้า”
เฉลยธรรมบัญญัติ 29:2-20 THSV11

ชาโลม

เอลเดอร์ โป้ง

Post Info

Latest Posts

Share!!

ขออภัยในความผิดพลาด ทางเราได้ทำการแก้ไขการจัดเรียนหน้าในหนังสือ The gates of hell shall not prevail against her ให้ถูกต้องแล้ว

X