
Torah Today ตอน “ กระจกวิเศษ “
(TH) สวัสดีครับทุกคนหลังจากที่ห่างหายไปนานเพราะผมเดินทางไปทำคลาสเอาชนะแนวคิดเหยื่อที่หัวหินตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งมีความสุขมากๆครับและยังเกิดผลมากๆอีกด้วยได้เห็นหลายคนรู้วิธีกลับใจแท้ และเห็นผลในการเปลี่ยนแปลงของแต่ล่ะคนก็ทำให้ผมอีกมีพลังในการรับใช้พี่น้องทุกคนมากๆเลยครับ
เอาหล่ะวันนี้ผมมีเรื่องดีๆมาแบ่งปันทุกคนในหัวข้อ “ กระจกวิเศษ “ ครับ อะไรคือกระจกวิเศษที่ผมพูดถึงครับ บางคนคงเดาออก ใช่แล้วครับ กระจกวิเศษที่ผมพูดถึงคือ “ โทราห์หรือธรรมบัญญัตินั้นเองครับ “ เปาโลพยายามอธิบายถึงหน้าที่ของโทราห์ให้ผู้เชื่อในโรมได้เข้าใจว่า โทราห์ไม่สามารถช่วยใครให้ รอด ได้แต่เป็นเพียงตัวชี้ว่า อะไรผิดอะไรถูก เท่านั้น มาดูพระคำกันก่อนน่ะครับ
“ถ้าอย่างนั้นเราจะว่าอย่างไร? จะว่าธรรมบัญญัติคือบาปหรือ? เปล่าเลย แต่ว่าถ้าไม่มีธรรมบัญญัติแล้ว ข้าพเจ้าก็คงไม่รู้จักบาป เพราะว่าถ้าธรรมบัญญัติไม่ได้ห้ามว่า “ห้ามโลภ” ข้าพเจ้าก็คงไม่รู้ว่าอะไรคือความโลภ แต่ว่าบาปได้ฉวยโอกาสใช้ข้อบัญญัตินั้น ทำให้ความโลภทุกอย่างเกิดขึ้นในตัวข้าพเจ้า เพราะว่าถ้าไม่มีธรรมบัญญัติ บาปเป็นสิ่งที่ตายแล้ว เมื่อก่อนข้าพเจ้าดำรงชีวิตอยู่นอกเหนือธรรมบัญญัติ แต่เมื่อบัญญัตินั้นมา บาปก็กลับมีชีวิต และข้าพเจ้าก็ตาย บัญญัติซึ่งมีไว้เพื่อชีวิต ข้าพเจ้าพบว่านำไปสู่ความตาย เพราะว่าบาปได้ฉวยโอกาสใช้บัญญัตินั้นล่อลวง และประหารข้าพเจ้าให้ตาย เพราะฉะนั้น ธรรมบัญญัติจึงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และบัญญัตินั้นก็ศักดิ์สิทธิ์ ยุติธรรมและดีงาม”
โรม 7:7-12 THSV11
จะเห็นว่าเปาโลพยายามอธิบายเรื่องที่ยากมากๆ แต่ไม่ยากเกิยจะเข้าใจได้ แล้วเปาโลอธิบายอะไรครับ นั้นคือ เปาโลพยายามบอกว่า ธรรมบัญญัติเป็นเป็น ตัวสอนเราให้รู้ว่า อะไรคือ บาป ธรรมบัญญัติทำหน้าที่เท่านั้น ธรรมบัญญัติไม่มีอำนาจหน้าที่ ช่วยใครให้พ้นจากบาป ไม่เหมือน พระเมสิยาห์ที่พระองค์ ทรงมีอำนาจและความสามารถในการช่วยผู้ที่ต้องการให้รอดพ้นจากบาปได้ ใช่แล้วครับทำบัญญัติไม่สามารถช่วยใครให้พ้นจากบาปได้แต่ธรรมบัญญัติมีหน้าที่เพียงแจ้งคนๆนั้นให้เห็นบาปของตัวเองได้เท่านั้นโทราห์หรือทำบัญญัติเลยเปรียบเสมือนกระจกวิเศษส่องชีวิตของเราทุกคนนั่นเองครับเหมือนคำในสำนวนภาษาไทยที่ว่า ”ให้ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงา” นั่นคือความหมายที่ตรงกับการมีชีวิตอยู่ในโทราห์มากๆเพราะโทราห์หรือธรรมบัญญัติ คือ ตัวที่สะท้อนความคิดจิตใจของเราเพื่อเราจะเห็นความสวยงามหรือความสกปรกภายในใจของเราได้โทราห์ทำหน้าที่นั้นและทำได้เพียงเท่านั้นจริงๆครับ
และถ้าเราซื่อสัตย์กับตัวเองเราะยอมรับว่าแม้เรารู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก อะไรบาปอะไรไม่บาป แต่เราทุกคนก็ไม่มีความสามารถในการเลิกบาปได้สักทีใช่มั้ยครับ และนั้นคือ คำตอบว่าทำไม มนุษย์ต้องการพระผู้ช่วยให้รอดเข้ามาในชีวิตนั้นเอง เพราะมีเพียงพระองค์เท่านั้นที่สามารถช่วยเราให้เลิกทำบาปได้ ประการแรก คือ พระองค์ชดใช้ความผิดทั้งหมดที่ผ่านมาแทนเราได้จริงๆและมีเพียงพระองค์ผู้เดียวที่ทำได้และพระองค์ทำให้เราแล้วแต่จะมีผลกับผู้ที่ต้องการเท่านั้นเพราะใครไม่ต้องการเขาก็จะอยากทำบาปไปเรื่อยๆไม่กลับใจ จ่ายค่าเสียหายให้เท่าไรเขาก็กลับไปทำมันใหม่อยู่ดี พอวันสุดท้านเดินทางมาถึง พวกเขาก็ยังควทำบาปไม่เลิกนั้นเอง แต่สำหรับคนที่ต้องการ เขาจะพยายามสู้กับความบาปแบบเต็มกำลังแต่เมื่อเขาต้องการสู้กับบาป เขาก็มีโค้ชที่เก่งที่สุดในเรื่องนี้ค่อยอยู่ข้างๆแนะนำให้กำลังใจตลอดเส้นทาง แต่ย้ำน่ะครับ โค้ช ยาห์ชัว ท่านนั้น เป็นเพียงโค้ชเท่านั้น ท่านไม่มีหน้าที่ ทำแทนเราในเรื่องการเอาชนะบาป ท่านทำได้เพียงแนะนำและหนุนใจ และเมื่อทุกอย่างเพรียบพร้อมแล้วกระบวนการเอาชนะบาปก็จะเริ่มต้นและจะเสร็จสมบูรณ์แน่นอนครับ
เอาหล่ะประเด็นที่ผมต้องการพูดวันนั้นคือ คำแนะนำของยาห์ชัวผู้เป็นโค้ชในการเอาชนะบาปแนะนำเราว่า อย่าใช้โทราห์ในการจับผิดคนอื่น แต่ให้นำโทราห์มาใช้เพื่อตรวจสอบชีวิตตัวเองเท่านั้น มาดูพระคำกันครับ
“อย่าพิพากษา เพื่อพระเจ้าจะไม่ทรงพิพากษาท่านทั้งหลาย เพราะว่าพวกท่านจะพิพากษาผู้อื่นอย่างไร พระเจ้าจะทรงพิพากษาท่านอย่างนั้น และท่านทั้งหลายจะตวงให้ผู้อื่นด้วยทะนานอันใด พระเจ้าจะทรงตวงให้พวกท่านด้วยทะนานอันนั้น ทำไมท่านมองเห็นผงในตาพี่น้องของท่าน แต่กลับมองไม่เห็นไม้ทั้งท่อนที่อยู่ในตาของท่าน? ท่านจะกล่าวกับพี่น้องได้อย่างไรว่า ‘ให้ฉันเขี่ยผงออกจากตาของเธอ?’ ทั้งๆ ที่มีไม้ทั้งท่อนอยู่ในตาของท่านเอง คนหน้าซื่อใจคด จงชักไม้ทั้งท่อนออกจากตาของท่านก่อน แล้วท่านจะเห็นได้ถนัด จึงจะเขี่ยผงออกจากตาพี่น้องของท่านได้”
มัทธิว 7:1-5 THSV11
อย่างที่ผมเล่าให้ฟังบ่อยๆตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า บทเรียนผู้เป็นสุข หรือ คำเทศนาบนภูเขา จบในบทที่ 7 ดังนั้น ข้อพระคำข้างต้นอยู่ในการเทศนานี้ และหากเราสังเกตุดูดีๆคำเทศนาบนภูเขา ยาห์ชัว กำลังสอนโทราห์ขั้นลึกอยู่นั้นเอง และแน่นอน ในบทที่7 เริ่มต้นด้วยการบอกว่า อย่าพยายามแก้ไขชีวิตคนอื่น อย่าจับผิดใคร เพราะโทราห์และธรรมบัญญัติมีไว้เพื่อจัดการชีวิตเราเองเท่านั้น นั้นคือ ความหมายของคำว่า “อย่าพิพากษาคนอื่น “ เพราะโทราห์คือเกณท์ในการพิพากษาเราทุกคนแต่ นี้ยังไม่ใช่เวลาที่เราจะมานั่งพิพากษาใครแต่เป็นเวลาที่เราจะต้องเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตให้ตรงตามกฏหมายเองเสียก่อนในฐานะที่เราต่างเป็นอดีตนักโทษกันทุกคน นั้น เอง
คำว่า “ตักน้ำใส่กระโหลกชะโงกดูเงา “ จึงเหมาะกับเราทุกคนที่ต้องการเลิกบาปมากที่สุดครับ และเราจะใช้โทราห์เป็นกระจกวิเศษส่วนตัวของเราในทุกๆวัน โดยที่เราจะไม่เสียเวลามานั่งจับผิดหรือสะดุดใครเลย ความสุขรออยู่ไม่ไกลแล้วครับ ทุกคน
ชาโลมครับ
เอลเดอร์โป้ง
Congregation of YHWH, Thailand ชุมชนของพระยาห์เวห์ แห่งประเทศไทย
ขออภัยในความผิดพลาด ทางเราได้ทำการแก้ไขการจัดเรียนหน้าในหนังสือ The gates of hell shall not prevail against her ให้ถูกต้องแล้ว